สวัสดีคะ ตอนนี้รับประทานยาคุมแบบ 28 เม็ด พอเข้าช่วงเม็ดสีขาว เม็ดที่ 3-4 ประจำเดือนยังไม่มา มีอาการคัดหน้าอกและอยากอาเจียนเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอคะ ตรวจปัสสาวะขึ้น 1 ขึ้น ตรวจเลือดก็ปกติไม่ตั้งครรภ์ คือกลัวมากคะ ไม่ได้เตรียมใจไว้กับเรื่องนี้ เพราะตัวเองอายุเยอะแล้ว ช่วงหลังกินยาคุมไม่ตรงเวลา แต่มีอะไรกับแฟนแค่เดือนละครั้ง อยากทราบว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน และมีโอกาสเป็นโรคอะไรคะ

การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% ค่ะ แต่ถ้ารับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ ความเสี่ยงจะค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ซึ่งถือว่าต่ำมากจนไม่น่าจะกังวล

ดังนั้น ต้องพิจารณาว่าผู้ถามรับประทานยาคุมถูกต้องและมีผลคุมกำเนิดจากยาหรือยังในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์นะคะ เช่น ถ้ารับประทานยาคุมแผงแรกและเริ่มใช้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะมีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังรับประทานค่ะ และหากไม่ได้ลืมรับประทานยาคุม (ซึ่งผู้ถามใช้แบบฮอร์โมนรวม) ติดต่อกันตั้งแต่ 2 - 3 วันขึ้นไป ก็ยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง จึงมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากนะคะ

ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทานเม็ดแป้งของแผงค่ะ โดยมักจะมาประมาณเม็ดแป้งลำดับที่ 3 - 4 หรือคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อย ดังนั้น หากยังใช้ยาคุมไม่หมดแผง แนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะ ยังไม่ต้องกังวลค่ะ

การใช้ยาคุมแบบ 28 เม็ด เมื่อหมดแผงแล้วจะต้องต่อแผงใหม่ในวันถัดมา ไม่ต้องเว้นว่างเพิ่มอีก และไม่ต้องรอให้ประจำเดือนหมดก่อนนะคะ หากต่อยาคุมตรงตามกำหนด ก็จะมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องทุกวันค่ะ

แต่ถ้าใช้ยาคุมไปหมดแผงแล้วแต่ยังไม่มีประจำเดือนมา ควรตรวจการตั้งครรภ์ซ้ำอีกครั้ง ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ปัสสาวะแรกของวัน ในวันที่จะต้องต่อยาคุมแผงใหม่นะคะ ถ้าผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด คือไม่ตั้งครรภ์ ก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนดเพื่อให้มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้ค่ะ

และหากผู้ถามต้องการให้ยาคุมมีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกัน ต่อไปก็ควรรับประทานให้ตรงเวลาสม่ำเสมอนะคะ
..
..
ส่วนอาการคลื่นไส้อาเจียนและจุกแน่นที่ลำคอ หากมีอาการรุนแรง หรือเป็นอยู่เรื่อย ๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

1. รอบประจำเดือนในแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ และเนื่องจากไม่ทราบรายละเอียด ถ้าเป็นในกรณีทั่วไปที่ไม่ได้ใช้ยาคุมรายเดือน คงยังระบุไม่ได้ว่าประจำเดือนของผู้ถามมาล่าช้าหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในผู้ที่ใช้ยาคุมรายเดือน จะเป็นการปรับรอบประจำเดือนใหม่ค่ะ โดยประจำเดือนจะมาในช่วงปลอดฮอร์โมนของแผง ซึ่งสำหรับยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ด ช่วงปลอดฮอร์โมนก็คือช่วงที่รับประทาน "เม็ดแป้ง" นั่นเอง

ดังนั้น การที่ผู้ถามไม่มีประจำเดือนมาในช่วงที่รับประทาน "เม็ดยาฮอร์โมน" ของแผง ก็เป็นเรื่องปกติค่ะ

แต่กว่าที่เยื่อบุมดลูกจะเกิดการหลุดลอกและมีประจำเดือน ก็ต้องรอให้ระดับฮอร์โมนในเลือดลดต่ำลงมามากก่อน ดังนั้น ประจำเดือนจึงมักจะมาหลังจากที่ใช้ "เม็ดยาฮอร์โมน" หมดไปแล้ว 2 - 3 วันนั่นเอง (ไม่ใช่ว่าจะต้องมาในเม็ดแป้งเม็ดแรกที่ใช้เลย) และในบางรายก็อาจคลาดเคลื่อนจากนั้นได้เล็กน้อย

2. การต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนด จะทำให้มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องกันค่ะ ผู้ใช้จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตลอดทุกวันนั่นเอง (แต่ควรหลีกเลี่ยงช่วงที่มีประจำเดือน เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกราน)

ดังนั้น หากใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ดไปจนหมดแผงแล้วแต่ไม่มีประจำเดือนมา ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันที่จะต้องต่อยาคุมแผงใหม่ ถ้าตรวจได้ถูกวิธีและตรวจในเวลาที่เหมาะสมแล้วได้ผลตรวจเป็น 1 ขีด ก็เชื่อมั่นได้มากกว่า 99% ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ หากผู้ถามต้องการผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่องก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนดได้เลยค่ะ

หรือหากกังวลใจ อยากรอให้ประจำเดือนมาก่อน แล้วค่อยใช้ยาคุมแผงใหม่ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ระหว่างที่รอ จะไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาแล้ว จึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่จะมีเพศสัมพันธ์นะคะ

ซึ่งในกรณีที่ผู้ถามเลือกที่จะต่อยาคุมแผงใหม่ไปเลย หากไม่มีประจำเดือนมาในช่วงไม่กี่เม็ดแรกของแผงใหม่ ก็จะไม่มีประจำเดือนมาในรอบนี้แล้วค่ะ แต่หากไม่ตั้งครรภ์ก็ควรจะมีประจำเดือนมาในช่วงที่รับประทาน "เม็ดแป้ง" ของแผงใหม่นะคะ แต่ถ้าใช้แผงใหม่ไปจนหมดแล้วยังไม่มีประจำเดือนมาอีก แม้จะตรวจซ้ำอีกรอบแล้วพบว่าไม่มีการตั้งครรภ์ ก็ถือว่าไม่ปกติ จึงควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ