April 01, 2019 11:22
ตอบโดย
พิชญาพร กูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
อาการและพฤติกรรมของผู้ป่วยใกล้เคียงกับโรค กรดไหลย้อนค่ะ
โรคกรดไหลย้อน คือ ภาวะที่มีน้ำย่อยในกระเพาะอาหารซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด ไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร ส่งผลให้มีอาการระคายบริเวณลำคอ และแสบอกหรือจุกเสียดบริเวณใต้ลิ้นปี่ คลื่นไส้อาเจียน รวมทั้งมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อร่วมด้วย คล้าย ๆ กับอาการของโรคกระเพาะอาหาร โดยเกิดจาก ความผิดปกติในการทำหน้าที่ของหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง เช่น มีการคลายตัวของหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างโดยที่ไม่มีการกลืน หรือความดันของหูรูดของหลอดอาหารส่วนล่างลดลง ไม่สามารถต้านแรงดันในช่องท้องและการบีบตัวของกระเพาะอาหารได้
โดยส่วนใหญ่แพทย์มักจะรักษาโดยให้รับประทานยาต้านกรดในกระเพาะอาหารร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ไม่ควรรับประทานอาหารแต่ละมื้อในปริมาณมากเกินไป ควรรับประทานบ่อยครั้งๆละน้อย หลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด อาหารไขมันสูง อาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด/เผ็ดจัด หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และการสูบบุหรี่ และทำการตรวจติดตามเป็นระยะ ที่สำคัญคือ หลังรับประทานอาหาร ไม่ควนนอนหรือเอนหลัง 30-60 นาทีค่ะ
การรักษาโรคกระเพาะและโรคกรดไหลย้อนนั้นใช้ควรรับประทานยาติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารข้างต้น ถึงจะได้ผลดีค่ะ
หากไม่ดีขึ้นก็มีการส่งตรวจเพิ่มเติ่ม เช่น ส่องกล้องในหลอดอาหารเพื่อช่วยในการวินิฉัยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ปกติเป็นคนเครียดคิดมากด้วยค่ะอย่างนี้จะกระทบต่อโรคมั้ยค่ะ ยิ่งเป็นโรคนี้ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่เลยค่ะ
มีอาการจุกในลำคอ เรอเเละผายลมบ่อย บางครั้งมีอาการอาเจียนจนกินอะไรไม่ได้ มีน้ำย้อนขึ้นมาในลำคอเปรี้ยวๆค่ะ กินยาเภสัชเเล้วก็ดีขึ้นบ้างค่ะเเต่ไม่ทันไรก็เป็นขึ้นมาอีก ถ้าหากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินโดยไม่พึ่งยานี่จะช่วยให้หายได้ไหมคะ อาการเเบบนี้เป็นๆหายๆมานานเเล้วค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)