สวัสดีคับคุณหมอ ผมอายุ20 วันนี้ผมได้มีเพศสัมพันธ์ (11/08/62) กับรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งพี่เขาก็มีแฟนแล้วคับ ผมมีเพศสัมพันธ์ทางประตูหลัง(โดยไม่ป้องกัน แล้วเลือดออก ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ที่ผมมีเพศสัมพันธ์ทางประตูหลัง และผมก็ไม่รู้ว่าพี่เขาผ่านอะไรกับใครมาบ้างคับ? /ตอนที่พี่เขาพยายามสอดใส่นั้น มีเลือดออกทางประตูหลังของผม พี่เขาบอกว่ามันแค่ฉีกเฉยๆไม่มีอะไรหรอก (ผมก็แอบกลัว กลัวจะติดเชื้อ แต่อีกใจหนึ่งผมก็คิดว่ามันแค่ฉีกเฉยๆคับ เพราะของพี่เขาก็ไม่ใช่ย่อย คือตอนที่ผมมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกมันเล็กกว่านี้หลายเท่าคับ (ผมเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับครั้งที่สองห่างกัน 4 เดือนคับ ) #ผมควรทำไงดีคับ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้นั้นก็มีโอกาสที่จะติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ครับ และยิ่งเป็นการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักโอกาสที่จะติดเชื้อได้ก็มีได้มากกว่าปกติ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในเบื้องต้นก่อนและถ้าหากยังไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็สามารถขอรับยาต้านไวรัสมารับประทานเพื่อป้องกันการติดเชื้อได้ครับ

ส่วนการมีแผลที่ทวารหนักหมอก็แนะนำให้พยายามดูแลรักษาความสะอาดของแผล คอยระวังไม่ให้เกิดความอับชื้น พยายามดื่มน้ำให้มากๆและรับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้นเพื่อช่วยให้อุจจาระนิ่มลง และถ้ามีอาการปวดแผลมากก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดหรือนั่งแช่ก้นในน้ำอุ่นนาน 10-15 นาทีเพื่อบรรเทาอาการปวดได้ครับ แต่ถ้าหากแผลมีลักษณะปวด บวม แดงมากขึ้น หรือมีหนองไหลออกมาจากแผลก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ

สวัสดีครับ โอกาสติดเชื้อ HIV

สำหรับ ฝ่ายรุกในชายกับชาย ถ้าอ้างอิงจาก สำนักป้องกันโรคติดต่อ คือประมาณ 0.11% ครับ ซึ่งถือว่าเยอะกว่า ฝ่ายรุกใน ชายกับหญิงครับ ซึ่งชายกับหญิงจะอยู่ที่ 0.04% ครับ ซึ่ง โอกาสในการติดของชายรักชาย ฝ่ายรุกถือว่ามากกว่า แบบชาย หญิงปกติ ถึง3 เท่าครับ

โอกาสติดเชื้อ HIV ในฝ่ายรับในชาย ประมาณ 1.38% ซึ่งถ้าเทียบกับ ฝ่ายรับในหญิงกับชาย จะอยู่ที่ 0.08% ซึ่งคิดเป็นตัวเลขกลมๆ จะประมาณ 17เท่า ครับ

ถ้า เกิดว่าเหตุการณ์มีเพศสัมพันธ์ที่ผ่านมายังไม่เกิน 72 ชั่วโมงครับ แนะนำให้รีบไปโรงพยาบาลเพื่อเจาะเลือดและรับยาต้านไวรัส HIV ครับ

ถ้าผ่านมานานแล้ว เกิน 1 เดือน แนะนำให้ไปเจาะหาภูมิต้านทานต่อ HIV ที่โรงพยาบาลครับ และควรได้รับการตรวจหาโรคอื่นๆ ช่น ซิฟิลิส หนองใน เป็นต้นครับ จะได้ทำการรักษาต่อไปครับ