หยุดกินยาคุมไปแล้ว 1 เดือน แล้วกลับมากินต่อทันทีที่เมนหมด และมีเพศสัมพันธ์ แต่ยังกินยาคุมได้ไม่ครบเดือน ปกติจะหลั่งภายนอกเท่านั้น แต่ว่าครั้งนี้เอาออกไม่ทัน เลยหลั่งภายในไปบ้างเล็กน้อยเท่านั้น อยากทราบว่า จะท้องหรือเปล่าคะ แล้วยาคุมจะมีประสิทธิภาพไหม หรือว่าต้องกินให้ครบ 3 เดือนก่อนยาถึงจะมีประสิทธิภาพคะ อันนี้เภสัชเคยบอกไว้ตอนกินยาครั้งแรกค่ะ แล้วถ้าไม่ได้ผลควรทานยาคุมฉุกเกฉินทันทีเลยไหมคะ

หากเริ่มทานยาคุมในช่วงประจำเดือนหมดแล้ว สามารถทานได้ แต่ต้องใช้การคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยด้วยในสัปดาห์แรกที่ทานยาครับ และยาคุมกำเนิดจะเริ่มมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดในสัปดาห์ที่สองครับ

ฉะนั้นหากเริ่มทานยานานกว่า7วันและเพอ่งมีเพศสัมพันธ์ ยาคุมกำเนิดรายเดือนจะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดแล้วครับ

แต่หากยังอยู่ในช่วงที่เริ่มทานยาคุกำเนิดรายเดือน7เม็ดแรก ซึ่งยังมีประสิทธิภาพไม่เต็มที่แล้วมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หลั่งใน ควรรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินร่วมด้วย ภายหลังมีความเสี่ยงไม่เกิน72-120ชั่วโมงครับ

ยาคุมกำเนิดรายเดือนจะมีผลในการคุมกำเนิดทันทีเมื่อรับประทานในช่วงวันที่1-5ของรอบประจำเดือน หรือรับประทานในช่วงที่มีประจำเดือนครับ

สวัสดีครับ การกินยาคุม ตองเริ่มเม็ดแรกภายใน 1-5 วันแรกที่มีประจําเดือนเทานั้น  กินในเวลาใกล้เคียงกันในแต่ละวันเพื่อให้ระดับฮอร์โมนคงที่
คือกินต่อเนื่องทุกวัน สำหรับแผง 28 เม็ด
หยุดกิน 7 วันหลังเม็ดสุดท้าย สำหรับแผง 21 เม็ด

ถ้ากินอย่างถูกต้องไปแล้วอย่างน้อย 1 อาทิตย์ถือว่ายาคุมมีประสิทธิภาพการคุมกำเนิดครับ

การทานยาคุมกำเนิดรายเดือน อย่างตรงเวลา สม่ำเสมอ มีโอกาสผิดพลาดได้ 0.3%
หาก เริ่มรับประทานยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาคุมจะออกฤทธิ์คุมกำเนิดได้เลย สามารถหลั่งในได้ค่ะ
หากหมดแผงแล้วประจำเดือนมาปกติ ก็ แสดงว่าไม่ตั้งครรภ์ค่ะ

เมื่อหยุดใช้ยาคุมไปนานจนไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้ว เมื่อกลับมารับประทานต่อ ก็ใช้หลักการเดียวกันกับยาคุมแผงแรกค่ะ นั่นคือ ควรใช้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อยู่แน่นอน และจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานนะคะ

แต่ถ้าผู้ถามใช้ยาคุมแผงนี้ไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะต้องรับประทาน "ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม" (ยาคุมสูตรปกติ ที่ไม่ใช่สูตรหญิงให้นมบุตร) ติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ค่ะ ในช่วงแรกจึงควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนนะคะ

แต่ถ้าผู้ถามมีเพศสัมพันธ์โดยใช้วิธีหลั่งนอกซึ่งเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำ หรือไม่ได้ป้องกันใด ๆ เลย ในช่วงที่ยังไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน ก็มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้สูง หากยังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ควรพิจารณาการคุมกำเนิดฉุกเฉิน เช่น รับประทานยาคุมรายเดือนโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียวได้ค่ะ

สวัสดีครับ
เมื่อกลับมารับประทานยาคุมใหม่อีกครั้งจะมีแนวทางดังนี้ครับ
- ถ้าเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาคุมก็จะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่รับประทาน
- ถ้ารับประทานช้ากว่า 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทานยาติดต่อกันอย่างน้อย 7 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้

วันวันทีที่มีเพศสัมพันธ์ยาคุมออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่แล้วก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาครับ