July 02, 2019 19:13
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
1.เรื่องน้ำสีเหลือง น่าจะเป็นตกขาวติดเชื้อครับ
ตกขาวที่ปกติคือ มีสีขาวขุ่น มีกลิ่นคาวเล็กน้อย เเต่ถ้ามีสีผิดปกติ เช่น มีสีเหลืองเขียว มีเลือดปน หรือขาวเป็นก้อนคล้ายนมบูด ร่วมกับมีกลิ่นเหม็น คันช่องคลอด เเบบนี้คิดถึงการติดเชื้อในช่องคลอดครับ
อาการคนไข้ตกขาวมีสีเหลืองเขียว น่าจะเป็นการติดเชื้อโปรโตซัว พวกTrichomoniasis
อาการของTrichomoniasis คือมีตกขาว เหลืองเขียว (บางคนเป็นสีขาวหรือเทาก็ได้) มีฟอง มีกลิ่นเหม็นคันช่องคลอด อาจมีเลือดปน
เบื้องต้น เเนะนำให้ไปพบเเพทย์เพื่อประเมิน เพราะการติดเชื้อในช่องคลอด มีทั้ง เชื้อรา เเบคทีเรีย หรือ โปรโตซัวก็ได้
การติดเชื้อบริเวณช่องคลอดนี้ถ้าไม่ได้รักษาอาจลามไปเป็นการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานได้ครับ ซึ่งจะมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วยเเล้วครับ
การรักษาเรื่องตกขาวคือการรับประทานหรือสอดยาฆ่าเชื้อครับขึ้นกับว่าติดเชื้ออะไร
ถ้าเป็นเชื้อราใช้ยาสอดพวกClotrimazoleครับ
ถ้าสงสัยเป็นTrichomoniasis (หรืออื่นๆ เช่น Bacterial vaginosis) จริงการรักษาคือ
1.Metronidazole 2 กรัม กินครั้งเดียว (กินทีเดียว4-5เม็ดขึ้นกับว่าเม็ดนึงกี่mg)
หรือ
2.Metronidazole 500mg ครั้งละเม็ดเช้าเย็น กิน7วัน
ผลข้างเคียงที่เจอได้บ่อยคือ คลื่นไส้อาเจียน.
ถ้ามีอาการผื่นขึ้น ปากบวม หอบเหนื่อย ให้หยุดยาเเล้วพบเเพทย์ทันทีครับ
ปรึกษาเภสัชกรลองเรื่องยาก่อนได้ครับ เเต่ถ้ามีไข้ มีปวดท้องน้อยร่วมด้วยเเสดงว่ามีการติดเชื้อถึงมดลูกเเล้วควรไปพบเเพทย์ทันทีครับ เพราะอาจต้องได้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อครับ
2.เรื่องประจำเดือน
การที่ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบหรือขาด อาจเกิดได้จากความเครียด ทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ,การตั้งครรภ์ ,การฉีดยาคุมกำเนิดชนิดสามเดือน ,ยาฝังคุมกำเนิด หรือ ห่วงคุมเนิดชนิดฮอร์โมน ครับ
หรือเกิดได้จากโรคอื่นๆ กรณีที่ประจำเดือนขาดนานๆ หรือมาไม่สม่ำเสมอครับ เช่น โรคถุงน้ำรังไข่อาการคือ ประจำเดือนมักมาไม่สม่ำเสมอร่วมกับพบลักษณะของฮอรโมนเพศชาย(มีสิว มีขนเยอะ) หรือ บางครั้งความผิดปกติของต่อมใต้สมองซึ่งมีหน้าที่หลั่งฮอร์โมนมากระตุ้นรังไข่ก็ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ครับหากประจำเดือนขาดนานๆ ร่วมกับบีบหัวนมเเล้วมีน้ำนมไหลออกมา หรืออาจเกิดจากการตกไข่ผิดปกติจากสาเหตุของรังไข่เอง
อื่นๆ เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่(ช็อคโกเเลตซีสต์) อาการคือ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้นครับ
.............
หากเดิมประจำเดือนมาปกติ เเล้วประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ โดยที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ หรือตรวจเเล้วไม่ท้อง (ปกติประจำเดือนขาดก็ตรวจได้เเล้วครับว่าท้องหรือไม่) หรือ ไม่ได้มีความเครียดอื่นๆ ควรไปพบสูตินรีเเพทย์ครับ อาจพิจารณารับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อปรับฮอร์โมน ร่วมกับหาสาเหตุด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
หมอขอตอบแยกเป็น 2 ประเด็นนะครับ
1. การที่ประจำเดือนขาดหายไปนานถึง 6 ปีนั้นมีโอกาสที่จะเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- ไม่มีการตกไข่
- ความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- มีความผิดปกติของโครงสร้างมดลูกหรือรังไข่
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
2. การมีน้ำลักษณะคล้ายหนองไหลออกมาจากช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์นั้นมักเกิดจากการติดเชื้อภายในช่คลอด โดยเฉพาะโรคหนองในซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครับ ซึ่งในส่วนนี้หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูลักษณะของน้ำที่ไหลออกมาเพื่อยืนยันสาเหตุ และให้การรักษาเพิ่มเติมเช่นกันครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ คือหนูอายุ 22 ประจำเดือนไม่มา 6 ปีแล้ว คือเคยมีแล้วมันไม่มาอีกเลยค่ะ แล้วไม่นานมานี้หนูได้มีเพศสัมพันธ์หลังจากนั้นมีน้ำเหมือนหนองเลยค่ะไหลออกมาจนถึงทุกวันนี้สีเหลืองข้นมากค่ะมีกลิ่นด้วยค่ะไม่ทราบว่ามันเป็นอะไรเหรอคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)