สวัสดีค่ะ.. คือหนูเครียดมากค่ะตอนนี้ ประจำเดือนยังไม่มา.. คือประจำเดือนเดือนที่แล้วหมดวันที่ 16 ก.ย. แล้วหลังจากนั้นวันที่21ก.ย. มีเพศสัมพันธ์(ช่วงบ่าย) ซึ่งตอนแรกไม่ได้ป้องกันแต่ตอนใกล้จะเสร็จถอดออกมาใส่ถุงยางก่อน แล้ววันที่22ก.ย.ซื้อยาคุมฉุกเฉินชนิด 1เม็ด มากิน(ตอนช่วงเที่ยง) แล้วหลังจากวันที่29มีเลือดออกมามากคล้ายประจำเดือน แต่มาแค่4วัน แล้วหายไป พอมาเดือนต.คนี้ ถึงรอบประจำเดือนจะมาแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มา มันมีโอกาสที่จะท้องไหม? หรือ ประจำเดือนยังไม่มาเพราะยาคุมฉุกเฉิน... หรือเป็นเพราะเครียดคะ

สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วหลังการรับประทานยาคุมฉุกเฉินควรจะยังมีประจำเดือนมาในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับประจำเดือนตามปกติอยู่ครับ ส่วนเลือดที่ออกมาในวันที่ 29 กันยายนนั้นหมอคาดว่าอาจเป็นเพียงผลข้างเคียงของการรับประทานยาคุมฉุกเฉินเท่านั้น

การรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 75-85% เท่านั้น ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปจึงควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูให้แน่ใจก่อนครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

การสอดใส่โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย แม้ว่าจะไม่มีการหลั่งภายในช่องคลอด ก็มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้สูงกว่าการป้องกันด้วยถุงยางหลายเท่าค่ะ จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการคุมกำเนิด

และการรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพียงเพราะไม่อยากใส่ถุงยาง เป็นการป้องกันที่ไม่เหมาะสมนะคะ เพราะยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพต่ำ ผู้ใช้จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงกว่าที่ควรจะเป็น

ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาเร่งหรือเลื่อนประจำเดือนค่ะ ผู้ที่ใช้ยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว หากไม่ตั้งครรภ์ ควรจะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่มากนะคะ โดยประจำเดือนปกติ ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ

ส่วนเลือดที่เป็นผลข้างเคียงจากยา เป็นเพียงหยดเลือดซึม หรือเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย และอาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร โดยในกรณีที่พบ อาจพบแค่เพียงวันเดียว หรือเป็นอยู่นาน 2 - 4 วันก็ได้เช่นกัน

การที่ผู้ถามมีเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยา ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ จึงต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือเปล่านะคะ

ซึ่งถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้ค่ะ