เป็นโรคไมเกรน กินยาพารายังไงก็ไม่หาย เป็นอาทิตย์ละอย่างน้อย3วัน พอเป็นทีนึงก็ลากยาวไปอีกวัน ทำอะไรไม่ได้ ปวดหัวปวดกระบอกตา จนร้องไห้ มีอาการบ้านหมุน อาเจียน ทรงตัวลำบาก ได้ยินเสียงหรือเห็นเเสงไม่ได้เลย จะทนไม่ได้ทันทีเเละปวดมากขึ้น หรือในวันปกติ เวลากลางวันเจอเเสงแดดมากๆพอกลับมาก็ไมเกรนขึ้น ปวดเมื่อยตัวตลอดเวลา ทั้งขาเเขนบ่าไหลต้นคอ กระดูกบริเวณที่ปวดเมื่อยขยับมักมีเสียงดังทุกบริเวณ แต่ไม่มีอาการเกี่ยวกับระบบประสาทพวกหน้าชา. ควรรักษาหริอเอ็กซเรย์ร่างกายยังไงไหมคะ กินยาอะไรก็ไม่หายสักที

สวัสดีค่ะ การรักษาโรคไมเกรน (migrain) นอกจากการใช้ยาแล้ว คนไข้ อาจต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดด้วย รวมถึง ถ้าควบคุมอาการไม่ได้ อาจต้องไปพบแพทย์ซ้ำเพื่อปรับยาค่ะ
>>โรค ไมเกรน คือ โรคชนิดหนึ่งซึ่งยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ แต่น่าเชื่อได้ว่าอาจมีจุดกำเนิดจากก้านสมองที่ทำงานผิดปกติ หรือเกิดจากภาวะที่สารเคมีในสมองไม่สมดุล ส่งผลให้หลอดเลือดมีความไวต่อการกระตุ้นมากเป็นพิเศษกล่าวคือ มีการหด และขยายตัวของหลอดเลือดอย่างผิดปกติ ทำให้เกิดอาการปวดศรีษะได้
โดยลักษณะอาการปวดศรีษะจะมีลักษณะ ปวดบริเวณขมับโดยอาจจะปวดข้างเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้ บางกรณีอาจมีการปวดวนกันไป และมักจะปวดข้างเดิมอยู่ซ้ำ ๆ
ส่วนอีกบริเวณหนึ่งที่พบมาก ได้แก่ บริเวณเบ้าตา ลักษณะของการปวด ก็มักจะปวดตุ้บๆ ตามจังหวะของชีพจร ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
การรักษาโดยการกินยาลดอาการปวด เช่น ไอบูโพรเฟน นาพรอกเซน เป็นต้น
การกินยาป้องกันไม่ให้หลอดเลือดหดและขยายตัวซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดเกิดขึ้น รวมถึง ถ้าควบคุมอาการไม่ได้ แพทย์บางท่าน อาจให้ยาที่ควบคุมอาการเพิ่มเติม เช่น amitryptylline , flunarizine หรือยากันชักบางชนิด ซึ่งต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ค่ะ
>>>อนึ่ง แนะนำว่า คนไข้ ควร หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคกำเริบซึ่งจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล เช่นความเครียด บางคนเจออาการร้อนหรือที่ๆแสงสว่างมากๆก็กระตุ้นได้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลัง หรือเครื่องดืมที่มีคาเฟอีนค่ะ

ดังนั้น ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ควรกลับไปตรวจซ้ำค่ะ

.ในกรณีสงสัยโรคไมเกรน โดยไม่มีอาการอื่นๆผิดปกติที่ทำให้สงสัยว่ามีปัญหาในเรื่องของสมองก็ไม่จำเป็นต้องทำการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ทุกคนคะ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อประเมิณอีกครั้งหนึ่งคะว่าจำเป็นจะต้องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์หรือไม่คะ