คือหนูทะเลาะกับแม่แล้วร้องไห้หนักจนแทบหายใจไม่ออก หนูรู้สึกอยากตาย พอสักพักหนูก็เริ่มทุบแขนตัวเอง จิกแขนตัวเอง เอาของมาตีแขนตัวเองแล้วหนูก็เอามีดโกนมีกรีดแขนตัวเองหนึ่งแผลแต่กรีดนิดเดียวนะคะ เพราะหนูรู้สึกเจ็บ พอหนูได้ทำหนูรู้สึกโล่งเบาสมอง หนูผิดปกติไหมค่ะหมอ (หนูรู้ตัวนะคะว่ากำลังทำอะไร หนูรู้สึกอยากตายแต่หาวิธีที่ไม่เจ็บ หนูได้จิกแขนได้ทำร้ายตัวเองหนูรู้สึกมีความสุขเฉยเลยค่ะ)

การที่มีความคิดอยากตาย /รู้สึกอยากทำร้ายตัวเองให้บาดเจ็บ อาจเป็นผลมาจากความคิดที่ไม่เหมาะสม ซึ่งมีสาเหตุมาจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ / จากการขาดทักษะในการจัดการอารมณ์ /จากลักษณะการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมส่งผลให้การปรับตัวผิดปกติ ได้ค่ะ

ในกรณีที่คิดแง่ลบ + มีปัญหาในการจัดการอารมณ์ +มีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง อาจบ่งอาการของซึมเศร้า หรือโรคผิดปกติทางบุตลิกภาพและการปรับตัว ก็เป็นไปได้ค่ะ

เบื้องต้นอยากให้สำรวจอาการ ดูว่า ในช่วง 2 สัปดาหืที่ผ่านมามีอาการเหล่านี้เกิน 7 ข้อหรือไม่นะคะ
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้แท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย
4.นอนไม่หลับ/หลับมากเกินปกติ
5.เบื่ออาหาร/ทานได้มากเกินปกติ
6.เหม่อลอย ขาดสมาธิ
7.หงุดหงิดง่าย ควบคุมอารมร์ไม่ค่อยได้
8.รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเอง
หากมีอาการเกิน 7 ข้อ ต่อเนื่องทุกวัน เกิน 2 สัปดาห์ อาจมีแนวโน้มที่จะเป้นซึมเศร้าได้ค่ะ

การรักษา ควรเริ่มต้นตั้งแต่เริ่มมีอาการ การรักษาที่ได้ผลดีคือการรักษาด้วยยา เพื่อช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ช่วยให้ควบคุมความคิด อารมณืและพฤติกรรมต่างๆ ได้เหมาะสมมากขึ้น ร่วมกับการทำจิตบำบัดเพื่อช่วยให้ปรับตัวกับปัยหาและสามารถดำเนินชีวิตได้เป้นปกติค่ะ

ดังนั้นในกรณีนี้ แนะนำให้พบจิตแพทยื ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม จะช่วยให้อาการดีขึ้นนะคะ

สวัสดีครับ

ตรงนี้การทะเลาะกับคุณแม่คงส่งผลต่อตัวหนูมากเลยใช่ไหมครับ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนนะครับ ที่อาจจะเจอกับคำพูดหรือการกระทำจากคุณแม่ที่ไม่ค่อยดีนักและส่งผลกระทบกับจิตใจของเรามาก แต่อย่างไรก็ตาม การทำร้ายตัวเองอาจจะช่วยให้ความรู้สึกตรงนั้นหายไปได้ แต่ในระยะยาวก็จะทำให้ร่างกายเกิดการเรียนรู้ที่จะทำแบบนี้มากขึ้นๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีกับร่างกายและจิตใจของหนูเองนะครับ ซึ่งในส่วนนี้ผมอยากแนะนำให้ลองเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญ หรือลองพูดคุยกับบุคคลอื่นๆในครอบครัวที่เราไว้ใจ อาจจะลองพาไปเจอกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อพูดคุยในเรื่องของปัญหาที่เกิดขึ้น รับการประเมิน และหาแนวทางการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปได้ครับ

นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ ผมขอเพิ่มเติมว่า ตัวเราสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้อารมณ์เศร้าลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะเป็นการฝึกเพื่อให้เราสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวครับ

สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลานะครับ ในเรื่องของความคิดฆ่าตัวตาย หากมีความคิดเหล่านี้เข้ามาเยอะๆ หรือคิดว่าตนเองมีแนวโน้มที่จะทำร้ายตนเอง ทำร้ายผู้อื่น หรือฆ่าตัวตาย และคุณไม่สามารถที่จะพาตนเองไปยังโรงพยาบาลได้ สิ่งแรกที่คุณควรจะต้องทำก็คือโทรติดต่อหาคนสนิทที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยเหลือเนื่องจากคุณมีความคิดแบบนี้ หรือคุณสามารถติดต่อไปที่สมาคมสะมาริตันส์ได้ที่เบอร์ 02-713-6793 เวลาทำการ 12:00-22:00 ซึ่งการบริการจะเป็นการให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์เช่นเดียวกันครับ หรือสุดท้ายแล้วหากไม่สามารถติดต่อไปที่ทั้งสอง คุณสามารถติดต่อกู้ภัยฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้นำคุณไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้ครับ หากคุณมีคำถามอื่นๆ ก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ