มีอาการปวดที่ท้องน้อยบ่อยๆ บางครั้งปวดหน่วงๆไม่เกิน 10 นาทีก้หาย บางครั้งก้ปวดเเปลบขึ้นมาสักพักก้หาย ปวดในช่วงที่ไม่ได้เป็นประจำเดือนนะคะ แบบนี้เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างคะ อันตรายมั้ย

สวัสดีค่ะ

สวัสดีค่ะ อาการปวดท้องน้อยสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น
-อุ้งเชิงกรานอักเสบจากติดเชื้อ มักมี ตกขาวผิดปกติ กลิ่นเหม็น เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ ปวดท้องน้อย
-อาการปวดเกร็งจากประจำเดือน หรือก่อนมีประจำเดือน ปวดเกร็งจากตกไข่
-มีรอยโรคภายในรังไข่หรือมดลูก เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, มีซีสต์ในรังไข่ เนื้องอกในมดลูก หรือมะเร็งมดลูก
-ถ้ามีการตั้งครรภ์อาจคิดถึงท้องนอกมดลูก, แท้งบุตร
-กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ติดเชื้อในไต มีนิ่วในไต อาจมีอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะเป็นขุ่น ปัสสาวะเป็นเลือด เป็นต้น
-ระบบขับถ่าย อาจมีปัญหาที่ลำไส้เล็กหรือลำไส้ใหญ่ เช่น ไส้ติ่งอักเสบ ไส้เลื่อน ลำไส้อักเสบเรื้อรัง ถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบ ท้องผูกเรื้อรัง มีอาการของระบบขับถ่าย เช่น ท้องผูก อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น
-ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้ออักเสบ กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหดเกร็ง กระดูกเชิงกรานร้าวหรือแตกหัก
เบื้องต้นแนะนำให้ทานยาแก้ปวดบรรเทา ได้แก่ พาราเซตามอล ยากลุ่ม NSAIDs เช่น Mefenamic acid และควรไปพบแพทย์และเล่าประวัติให้ละเอียด แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกาย และ/หรือ ตรวจพิเศษเพิ่มเติม เพื่อการวินิจฉัยค่ะ

สวัสดีครับ
อากปวดที่ท้องน้อยอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- การอักเสบของกล้ามเนื้อ จะมีลักษณะปวดเกร็งที่ผิวตื้นๆ มีจุดกดเจ็บชัดเจน และอาการมักสัมพันธ์กับการขยับตัวเปลี่ยนท่าทาง
- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ จะทำให้มีอาการปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย
- อุ้งเชิงกรานอักเสบ จะทำให้มีอาการเลือดออกหรือมีตกขาวผิดปกติทางช่องคลอดได้
- ลำไส้อักเสบ จะมีอาการท้องเสียถ่ายเหลวร่วมด้วย
- มีนิ่วในทางเดินปัสสาวะ จะทำให้มีอาการปวดร้าวลงขาหนีบ และก็อาจมีเลือดปนในปัสสาวะได้
เป็นต้น

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ