July 21, 2019 12:39
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ ปกติแล้วประจำเดือนของผู้หญิงควรมาทุก 21-35 วันค่ะ หรือมักคลาดเคลื่อนจากเดิมไม่เกิน 1 สัปดาห์ ถ้าเกินกว่านั้นหรือมีเพศสัมพันธ์ผ่านไปแล้ว 14 วันแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์จากปัสสาวะค่ะ โดยตรวจได้ในตอนเช้าจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด กรณีที่ตรวจแล้วไม่ตั้งครรภ์และประจำเดือนขาดนานกว่า 3 เดือนแนะนำให้ไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุค่ะ ส่วนสาเหตุอื่นๆที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาได้นอกจากการตั้งครรภ์แล้ว เช่น
-ระดับฮอร์โมนผิดปกติ หรือไม่มีการตกไข่
-เกิดความเครียด เป็นโรควิตกกังวล โรคอารมณ์แปรปรวน
-น้ำหนักมากหรือน้อยเกินไป ขาดสารอาหาร ออกกำลังหายหักโหมจนเกินไป
-จากการคุมกำเนิด เช่น จากการฝังยาคุมกำเนิด จากการทานยาคุมหรือฉีดยาคุมไปนานๆ
-ผิดปกติทางโครงสร้างของมดลูก
-ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
-มีเนื้องอกที่ต่อมใต้สมอง ต่อมหมวกไต หรือรังไข่
-ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (polycystic ovary syndrome)
-ภาวะพังผืดในมดลูก (Asherman's syndrome)
-วัยรุ่นที่เพิ่งมีประจำเดือนทำให้ประจำเดือนยังมาไม่สม่ำเสมอในช่วงแรกได้
-วัยที่เข้าใกล้วัยหมดประจำเดือน
-จากยาบางชนิด จากยาเคมีบำบัด จากการฉายรังสี
-โรคเรื้อรังบางชนิด หรือ จากการเจ็บป่วย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ประจำเดือนไม่มาอย่างน้อยกี่วันถึงเรียกว่าผิดปกติครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)