December 24, 2019 19:34
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วหลังจากหยุดรับประทานยาคุมไปประจำเดือนก็ควรจะยังต้องมาตามปกติอยู่ครับ ส่วนการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้นก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2-18% ขึ้นอยู่กับความถูกต้องของการใช้งานครับ
ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปหมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
วันที่ 28 ตุลาประจำเดือนมาและกินยาคุมไดแอนเม็ดแรก กินครบ 21 เม็ด ช่วงเว้น 7 วัน ประจำเดือนอีกเดือนมาเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกา แต่ไม่ได้เริ่มกินกล่องที่ 2 ต่อ แล้วมีเพศสัมพันธ์วันที่ 1 ธันวาแบบป้องกันโดยใส่ถุงยาง เช็คแล้วไม่รั่วแต่มีน้ำสีขาวข้นอยู่ตรงโคนถุงยาง ไม่ได้กินยาคุมฉุกเฉิน จนตอนนี้วันที่ 24 ธันวา ประจำเดือนยังไม่มา เป็นเพราะกินยาคุมไม่ต่อเนื่องหรือมีโอกาสท้องได้ไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)