March 16, 2019 15:14
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 1 มีนาคม .. .. .. .. .. .. หากเลือดที่ออกมาประมาณวันที่ 6 มีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วัน ก็น่าจะเป็นประจำเดือนที่มาตามรอบปกติ และเมื่อมีประจำเดือนมาแล้วก็หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์นะคะ .. .. .. .. .. .. แต่ถ้าเลือดที่ออกมานั้นไม่ได้มีลักษณะสอดคล้องตามที่กล่าวไปข้างต้น อาจเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งหมายถึงผู้ถามยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ค่ะ .. .. .. .. .. .. .. .. 2. การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 14 มีนาคม .. .. .. .. .. .. แม้จะมีการหลั่งไปแล้ว แต่ก็คงรับประกันไม่ได้ว่าจะไม่มีอสุจิเหลืออยู่ ดังนั้น หากมีการสอดใส่โดยไม่ใช้ถุงยาง ก็ย่อมถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้อยู่ดีนะคะ .. .. .. .. .. .. ซึ่งการใช้ยาคุมฉุกเฉิน หากใช้ถูกวิธีอาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาเป็น 15 - 25% ค่ะ แต่ในกรณีที่ผู้ถามรับประทานเม็ดที่ 2 ช้ากว่าเวลาที่แนะนำไป 4 ชั่วโมง แม้จะถือว่ายังมีผลคุมกำเนิดฉุกเฉินได้ แต่ประสิทธิภาพอาจไม่สูงเท่ากับผู้ที่รับประทานตรงเวลานะคะ .. .. .. .. .. .. ดังนั้น แนะนำให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ หรือถ้ากังวลใจมาก สามารถตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คือ มีอะไรกับแฟนประมานวันที่1 อะค่ะ พอวันที่2ก็กินยาคุมฉุกเฉินไป และอีก12 ชั่วโมงก็กินอีกเม็ดนึงค่ะ เดือนที่แล้วประจำเดือนมาวันที่4 วันที่5ของเดือนนี้มีเลือดออกเล็กน้อย พอวันที่6 มีเลือดออกเยอะมาก เราคิดว่ามันคือประจำเดือน แล้วหลังจากนั้น วันที่ 14 ก็มีอะไรกับแฟนอีกครั้ง ทำทั้งหมด3 รอบ แต่รอบที่3 ไปล้างมา และ ไม่ได้ใส่ถุง และ ไม่ได้มีการหลั่งใดๆทั้งสิ้น กังวลมากเลยซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินอีกครั้ง แต่เม็ดที่ 2 กินช้าไป 4 ชม. จะมีโอกาสท้องไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)