ขอสอบถามหน่อยครับคือผมเริ่มกินยาต้านไวรัส Hiv ได้ประมาณสองเดือนกว่าๆแล้วครับ แล้วที่นี้มันมีอาการแบบว่าอารมณ์ไม่คงทีครับ โมโหว่าย หงุดหงิดง่าย เครียดง่าย เศร้าง่าย หรือเบื่อไม่อยากจะทำอะไรเลยหรือบ้างทีมีเรื่องอะไรมาสะกิดอารมณ์นิดหน่อยก็จะเครียดหรืออาการนอยๆครับ ซึ่งก่อนที่จะรับยาต้านไม่เคยเป็นแบบนี้เลยครับ คือผมจะเป็นโรคซึมเศร้าหรือป่าวครับ เพราะเห็นเขาบอกว่ายาต้านมียาตัวนึงที่กดประสาทเราครับ

สวัสดีครับ
จากอาการเศร้า เบื่อไม่อยากทำอะไรข้างต้นนั้นถ้าหากเป็นติดต่อกันมานานต่อเนื่องอยู่เรื่อยๆก็อาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

ถ้าหากมีอาการในลักษณะที่สงสัยว่าจะเป็นโรคซึมเศร้าได้หมอก็แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เพื่อที่จะได้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดและให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

ส่วนยาต้านไวรัสที่รับประทานจะมีผลต่ออารมณ์หรือไม่นั้นหมอต้องขอทราบชื่อที่รับประทานอยู่ก่อนเพื่อที่จะได้ให้ข้อมูลได้อย่างถูกต้องครับ

ยา Teevir อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอารมณ์เศร้ามากขึ้นผิดปกติ นอนไม่หลับ และมีฝันร้ายได้ครับ ซึ่งถ้าหากทำแบบทดสอบข้างต้นได้ 12 คะแนนหมอก็แนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์และกลับไปพบแพทย์ที่ดูแลรักษาโรค HIV อยู่อีกครั้งเพื่อที่จะดูแลรักษาอาการไปพร้อมๆกันครับ