July 22, 2019 08:44
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ ถ้ามีประจำเดือนมาวันแรกวันที่ 10 กรกฎาคม และฉีดยาคุมกำเนิดวันที่ 16 กรกฎาคม ถือว่าฉีดภายใน 7 วันนับจากประจำเดือนมาวันแรก ยาคุมจะออกฤทธิ์ทันทีตั้งแต่วันแรกค่ะ สำหรับการใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉีดยาคุมจะออกฤทธิ์ได้เมื่อ
1.ฉีดยาคุมภายใน 7 วันนับจากประจำเดือนมาวันแรก (หรือส่วนมากหมอแนะนำให้ฉีดภายใน 5 วันนับจากประจำเดือนมาวันแรก) ยาคุมจะออกฤทธิ์ทันทีตั้งแต่วันแรก
2.ถ้าไม่ได้ฉีดภายใน 7 วันนับจากประจำเดือนมาวันแรก ต้องรอไป 7 วันก่อนยาคุมถึงจะออกฤทธิ์ ดังนั้นในช่วงที่รอ 7 วันนั้นต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือถ้าต้องการจะมีควรใช้ถุงยางอนามัยไปก่อน
อย่างไรก็ตามยาคุมกำเนิดแบบฉีดมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.2-6% ซึ่งถือว่าเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง ดังนั้นสามารถหลั่งในได้ตามปกติตามวันที่กล่าวไปแล้วข้างต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากผู้ถามฉีดยาคุมเข็มนี้เป็นเข็มแรก เมื่อเริ่มฉีดภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังฉีดยานะคะ (ตามแนวทางของ US CDC 2016 และ WHO 2016)
ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมชนิดฉีด จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.2 - 6% และความเสี่ยงจะค่อนไปทางต่ำ คือ 0.2% หากฉีดยาคุมตรงตามนัดสม่ำเสมอ
ดังนั้น ในกรณีของผู้ถาม ถือว่ามีผลคุมกำเนิดจากยาแล้วนะคะ จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ ไม่จำเป็นจะต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย โอกาสตั้งครรภ์มีน้อยมากหากผู้ถามไปฉีดยาคุมต่อตรงตามนัดสม่ำเสมอ
แต่ถ้ายาคุมที่ผู้ถามใช้เป็นยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน ผลข้างเคียงเด่น ๆ ที่อาจพบได้ก็คือ การมีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือนนะคะ
หากต่อไปผู้ถามพบปัญหาประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติหรือไม่มีประจำเดือนมาเลย ก็น่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมที่ใช้เอง มากกว่าที่จะเกิดจากการตั้งครรภ์ค่ะ อย่างไรก็ตาม หากผู้ถามพบปัญหาดังกล่าวแล้วกังวลใจ ก็สามารถตรวจการต้้งครรภ์ให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
และอย่าลืมไปฉีดยาคุมตรงตามนัดสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การฉีดยาคุมภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือนนั้นจะทำให้ยาคุมสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่ในวันแรกที่ฉีดยาครับ ทำให้การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งในในกรณีนี้จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-3% เท่านั้น จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ครับ
อย่างไรก็ตามถ้าหากยาคุมที่ฉีดนั้นเป็นยาคุมชนิด 3 เดือน ก็อาจมีผลข้างเคียงทำให้มีการขาดประจำเดือนไปได้ ทำให้บางคนอาจเกิดความกังวลขึ้นมาได้ครับ ถ้าหากในรอบเดือนนี้มีประจำเดือนขาดหายไปก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูให้แน่ใจได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ประจำเดือนมาวันที่10กรกฎาคม62 หายวันที่13กรกฎาคม62ฉีดยาคุมวันที่16กรกฎคม62 หลั่งในวันที่21ท้องมั้ยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)