July 26, 2019 22:27
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้นถ้าหากได้ใช้อย่างถูกต้องก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ
อย่างไรก็ตามถ้าหากประจำเดือนขาดหายไป หมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ก่อนเพื่อความมั่นใจ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนที่มาช้าก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
ส่วนการรับประทานยาขับเลือดนั้นหมอแนะนำให้หยุดรับประทานไปก่อนเนื่องจากไม่ได้มีผลเร่งให้ประจำเดือนมาเร็วขึ้นหรือช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟน วันที่ 15 ก.ค. ( หลังประจำเดือนหมดแล้วนะครับ มีตั้งวันที่15 มิ.ย.ถึง 20 มิ.ย. ) ใส่ถุง หลั่งนอก ใกล้เสร็จแล้วดึงออกมาแตกใส่บนตัวแฟน ทำไป2ครั้ง มีแตกใส่ถุงไปนิดหน่อย ( 2 รอบเลย ) เช็คถุงแล้วไม่แตกไม่รั่ว แต่แฟนประจำเดือนยังไม่มาเลย มีอาการคล้ายเหมือนคนจะท้อง รู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย เจ็บนมนิดหน่อย ตกขาวอาการปกติ เหมือนจะมีไข้ด้วย ตัวร้อน รู้สึกอ่อนเพลีย แฟนกินยาขับเลือดไปแล้ว 3 วัน ( รวมวันนี้ด้วย ) อยากรู้ว่าแฟนผมท้องรึเปล่าครับ??? กังวลมากเลย ยังไม่พร้อมมี
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)