June 29, 2018 22:10
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
กรณีของคนไข้เลือดที่ออกมาในช่วงของการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในช่วงครึ่งแรกหรือครึ่งหลังของรอบเดือนมีหลักๆ 2 ลักษณะครับ
หนึ่ง: เลือดออกมากจนต้องใช้ผ้าอนามัย (breakthrough bleeding)
สอง: เลือดออกกะปริดกะปรอย ปริมาณไม่มากไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าอนามัย (spotting)
การมีเลือดกะปริดกะปรอยขณะกินยา สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ที่เพิ่งเริ่มกินยาเม็ดคุมกำเนิดใหม่ๆโดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนแรก ซึ่งเป็นปัญหาข้างเคียงจากการกินยาที่พบได้ แต่ไม่เป็นอันตรายครับ หลังจากกินไปแล้ว 3 เดือน อาการเลือดออกจะดีขึ้นได้เอง
เบื้องต้นแนะนำว่าถ้าเลือดออกไม่มาก ออกมาเเค่รำคาญ ไม่มีอาการหน้ามืด เวียนศรีษะ ใจสั่น ให้ลองใช้ยาคุมนี้ไปสัก 3 เดือน น่าจะดีขึ้น
แต่ถ้ามีเลือดออกมากจนมีอาการดังกล่าว ควรหยุดกินยาคุมไปก่อน เพื่อหาสาเหตุที่เลือดออกอื่นๆนอกเหนือจากยาคุมกำเนิด
เเละเเนะนำให้พบสูตินรีเเพทย์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอโทษนะค่ะพอดีมีเรื่องจะมาสอบถามค่ะคือเพิ่งเริ่มทานยาคุมเเผงเเรกเมื่อวันที่17/05/2561ซึ่งเป็นวันที่มีประจำเดือนวันเเรกพอดีค่ะซึ่งปกติก่อนที่จะทานยาคุมจะเป็นประจำเดือนอยู่ที่ประมาณ5-6ตลอดของทุกเดือนเเต่พอมาทานยาคุมประจำเดือนมาเยอะมากๆในช่วง4วันเเรกพอเข้าวันที่5ประจำเดือนมาน้อยมากวันที่6-7มาเเบบกระปริบกระปรอยเเล้วหายไปเลยค่ะซึ่งส่วนตัวคิดว่าประจำเดือนคงจะหมดเเล้วเเต่พอมาช่วงเช้าของวันที่27มีเลือดประจำเดือนออกมาเเบบน้อยมากพร้อมกับริ่มเลือดดเล็กๆมาเเปปเดียวละก็หายค่ะละพอวันที่29กลับมีเลือดประจำเดือนออกมาอีกเหมือนวันที่27เป๊ะเลยค่ะมาเเบบกระปริบปรอยเเปปเดียวละหายไปเเล้วในช่วงวันที่27กับ29ช่วงที่ประจำมากระปริบกระปรอยจะมีอาการปวดท้องเเบบหน่วงๆเหมือนตอนที่มีประจำเดือนเป๊ะเลยค่ะปวดเเปปเดียวละก็หายค่ะไม่ทราบว่าที่มีอาการเเบบนี้มีผลมาจากการทานยาคุมมไหมค่ะ?หรือเป็นความผิดปกติของร่างกายค่ะ?ควรทำยังไงเหรอค่ะขอคำเเนะนำจากคุณหมอด้วยนะค่ะว่าควรทำยังไงดีขอบคุณมากๆค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)