September 09, 2018 22:50
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ หมอขอแยกตอบทีละประเด็นค่ะ
- การรับประทานยาคุมกำเนิด เป็นการคุมกำเนิดที่ประสิทธิภาพค่อนข้างสูงค่ะ หากทานอย่างสม่ำเสมอ และตรงเวลา ซึ่งประสิทธิภาพอยู่ที่ประมาณ 92 เปอร์เซน
- การตรวจการตั้งครรภ์แล้วพบว่า ขึ้นขีดเดียว แปลผลได้ดังนี้ค่ะ คือ ไม่ตั้งครรภ์ หรือ อาจจะตั้งครรภ์แต่อายุครรภ์ยังน้อยมากจึงยังตรวจไม่พบ
- อาการของไมเกรนที่กำเริบบ่อยขึ้น เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น ความแปรปรวนของฮอร์โมนเพศ พักผ่อนน้อย ความเครียดวิตกกังวล การอยู่ในที่แสงจ้า หรืออากาศร้อนๆ เป็นต้น
- อาการคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลียต่าง ๆ เป็นอาการที่ไม่จำเพาะเจาะจงค่ะ ซึ่งไม่ได้บ่ชี้ว่าตั้งครรภ์หรือไม่
- .ในกรณีที่กังวลเรื่องการตั้งครรภ์ อาจจะทำการตรวจซ้ำประมาณ 1-2 สัปดาห์ต่อจากนี้ค่ะ ถ้าให้ผลว่าไม่ตั้งครรภ์ และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีก ความแม่นยำค่อนข้างสูงว่ามีแน้วโน้มว่าไม่ตั้งครรภ์ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขออนุญาตเสริมเรื่องไมเกรนกับยาคุมนะคะ
หากผู้ถามมีอาการปวดศีรษะไมเกรนแบบมีอาการนำ (Migraine with aura) เช่น เห็นแสงวาบหรือจุดดำ หรือ รู้สึกชาบริเวณใบหน้าและมือ ห้ามใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมนะคะ เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนในยาคุมจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ชนิดสมองขาดเลือด (Ischemic Stroke) ให้มากขึ้น ต่อให้เป็นยาคุมยาสซึ่งมีปริมาณเอสโตรเจนต่ำมากก็ยังไม่ควรใช้อยู่ดีค่ะ
แต่ถ้าผู้ถามมีอาการปวดศีรษะไมเกรนแบบไม่มีอาการนำ แม้ว่าการใช้ยาคุมที่ไม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าจำเป็น ก็สามารถใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม (ซึ่งมีทั้งเอสโตรเจนและโปรเจสติน) ได้เช่นกัน โดยเลือกใช้สูตรที่มีปริมาณเอสโตรเจนไม่สูงมาก
อย่างไรก็ตาม หากผู้ถามใช้ยาคุมยาส ซึ่งถือว่ามีปริมาณเอสโตรเจนต่ำมาก (คือไม่เกินเม็ดละ 20 ไมโครกรัม) และเป็นยาคุมสูตร 24/4 (ที่ลดอาการปวดศีรษะจากความแปรปรวนของฮอร์โมนได้ดีกว่ายาคุมสูตร 21/7) แล้วยังมีอาการปวดศีรษะไมเกรนกำเริบบ่อย ๆ หรือรุนแรงมากขึ้น ก็ควรเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ที่ไม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนแทนนะคะ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิดสูตรหญิงให้นมบุตร (แต่หญิงปกติก็ใช้ได้ค่ะ), ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน, ยาฝังคุมกำเนิด หรือห่วงอนามัย ไม่ว่าจะเป็นชนิดหุ้มทองแดง หรือชนิดเคลือบฮอร์โมนก็ตาม (อ้างอิงตามหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการเลือกวิธีคุมกำเนิด หรือ Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use ฉบับปรับปรุงปี 2017)
ในกรณีนี้ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุของอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น เพื่อพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ และควรปรึกษาสูตินรีแพทย์หาวิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ที่ปลอดภัยกว่าสำหรับผู้ป่วยไมเกรน มาใช้แทนการรับประทานยาคุมยาสค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะตอนนี้อายุ 19 ปี สูง 170 หนัก 47 เป็นไมเกรนและได้ทานยาคุมอาการมาเป็นเวลา 5 ปีแล้วค่ะ ตอนนี้มีเพิ่มมาคือยาคุมกำเนิดของยาสชนิด 28 วันทานมาได้ตั้งแต่ต้นปีแล้วค่ะ แต่เพิ่งมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในเมื่อประมาน1เดือนที่แล้ว ตอนนี้มีอาการแปลกๆเกิดขึ้น ได้ลองซื้อที่ตรวจครรภ์มาแล้วเมื่อ 1 อาทิตย์กว่าๆ แต่ผลขึ้น1 ขีด ตอนนี้มีอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ บ่อยครั้งแม้ในเวลานั่ง เมื่อ3 วันที่แล้วมีอาการท้องเสียแต่ตอนนี้อาการดีขึ้นแต่ยังมีอาการปวดท้องเกร็งๆ ตึงๆ อยู่ มีอาการคลื่นไส้บ่อยครั้งมากค่ะ และความรู้สึกไวต่อกลิ่นอาหารมาก แม้กระทั้งอาหารที่ชอบทำให้เวียนหัวและคลื่นไส้ได้ง่ายขึ้น ร่างกายเหนื่อยเพลียง่ายมากค่ะ รู้สึกเหมือนแขนขาวิวๆไม่มีแรง โฟกัสไม่ค่อยได้ ช่วงนี้อาการไมเกรนเริ่มมาถี่ขึ้นกว่าเดิมมากด้วยอยากทราบว่าอาการข้างต้นเกี่ยวกับอะไรได้บ้างคะ แล้วถ้าไปเช็คที่รพ. เอกชนราคาจะอยู่ที่ประมานเท่าไหร่คะ 🙏🏻🙏🏻ขอบคุณคะ🙏🏻🙏🏻
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)