April 30, 2019 20:14
ตอบโดย
อนรรฆวี ฉง (พญ.)
การปวดประจำเดือนมีสาเหตุ2อย่างหลักค่ะ 1)เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิงระหว่างรอบเดือนซึ่งสามารถเกิดได้บ่อยได้คนที่อายุน้อยๆ โดยการรักษาส่วนมากก็จะให้ยาลดอาการปวดเป็นครั้งคราว ไม่ได้มีความอันตรายรุนแรง
2) การปวดประจำเดือนแบบมีสาเหตุ การตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุของภาวะปวดประจำเดือน ซึ่งหมายถึง การปวดประจำเดือนจากความผิดปกติของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน เช่น chocolate cyst, เนื้องอมดลูก, ภาวะมดลูกโต, ความผิดปกติของรังไข่ เป็นต้น โดยทั่วไปภาวะดังกล่าวเหล่านี้ส่วนใหญ่สามารถตรวจพบได้จากประวัติ การตรวจร่างกาย และการตรวจภายใน ซึ่งควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยเพิ่มเติมค่ะ หากมีสาเหตุจะได้แก้ได้ทันท่วงที
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
การปวดประจำเดือนจะเกิดจากมดลูกหดรัดตัวทำให้เกิดอาการปวดบริเวณท้องน้อย แต่หากมีอาการปวดมากจนมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันหรือทำให้ต้องพักงาน แบบนี้ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไปค่ะ เพราะสาเหตุที่ทำให้มีอาการปวดท้องประจำเดือนนั้นมีหลายสาเหตุ ซึ่งการรักษาบางครั้งอาจต้องถึงขั้นผ่าตัดเลยทีเดียว
สาเหตุของการปวดประจำเดือนจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ
ปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ (Primary dysmenorrhea) เป็นการปวดประจำเดือนที่แพทย์ตรวจไม่พบพยาธิสภาพในอุ้งเชิงกรานหรือท้องน้อยที่ชัดเจน เชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างการมีประจำเดือน และมาจากการมีสารพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) หลั่งออกมาจากเยื่อบุโพรงมดลูกมากผิดปกติ และสารชนิดนี้จะดูดซึมผ่านกระแสเลือดและมาออกฤทธิ์ที่มดลูก จึงทำให้มดลูกมีการบีบเกร็งตัวและเกิดอาการปวดที่บริเวณท้องน้อย การปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมินี้มักพบได้ในเด็กสาวหรือผู้หญิงวัยรุ่นค่ะ
ปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิ (Secondary dysmenorrhea) เป็นการปวดประจำเดือนที่แพทย์ตรวจพบพยาธิสภาพในอุ้งเชิงกรานร่วมด้วย เช่น การมีเนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่ หรือ เยื่อบุโพรงมดลูกต่างที่(Endometriosis) การมีพังผืดในช่องท้อง (Pelvic adhesion) การใส่ห่วงอนามัย หรือ ห่วงคุมกำเนิด (Intrauterine device birth control) สาเหตุอื่น ๆ เช่น มดลูกย้อยไปด้านหลังมาก, ปีกมดลูกอักเสบเรื้อรัง เป็นต้นค่ะ ยังไงแนะนำให้ไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อทำการรักษานะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เจ็บท้องค่ะเป็นเมนเจ็บนะคะไม่ปวด ไม่มีแรง เบื่ออาหาร น่ามืด นอนไม่ค่อยหลับ บางทีนิ้วชาหรือข้อเท้าชาค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)