March 06, 2018 07:32
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
ถ้าหากในแต่ละเดือน ประจำเดือนมาตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ การมีเพศสัมพันธ์กันในช่วงระยะเวลาดังกลาวก็จะไม่ใกล้กับวันตกไข่ จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ต่ำครับ (แต่ในความเป็นจริง ผู้หญิงหลายคนมักจะไม่ค่อยมีใครที่มีประจำเดือนมาตรงอย่างสม่ำเสมอ) และการกระทำดังกล่าวก็ถือว่าถูกต้องแล้วครับ ถ้าคิดว่าเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์จริงๆ ก็ควรที่จะรับประทานยาคุมฉุกเฉินกันไว้ก่อน แต่ก็ไม่สามารถที่จะป้องกันได้ 100% นะครับ ถ้าหากรับประทานเร็วโดยเฉพาะภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังมีเพศสัมพันธ์จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาร 80-85% ครับ และหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไปประมาร 1 สัปดาห์อาจมีเลือดออกกระปิดกระปอยออกทางช่องคลอดได้ และเป็นไม่นานไม่ต้องตกใจครับ อาจจะเป็นผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินได้ (แต่ก็ต้องแยกออกจากประจำเดือนให้ดี) ถ้าหากมีประจำเดือนก็แปลว่าไม่ตั้งครรภ์ครับ สรุปแล้วจากเหตุการณ์ดังกล่าว โอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นน้อยครับ และหลังจากนี้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ค่อยตรวจการตั้งครรภ์อีกที หรือถ้าประจำเดือนมาก็ไม่ต้องตรวจก้ได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ผมมีเพศสำพันธ์กับแฟนเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2561 ครับ เวลา 16.00 แล้วทีนี้ถุงยางเกิดแตกแล้วไหลไปในช่องคลอดนิดเดียวครับ แต่แฟนกลัวท้องเลยกินยาคุมฉุกเฉินไป เวลา 16.30 ครับ แล้วแฟนรู้สึกว่าประจำเดือนจะมาด้วยเพราะประจำเดือนมาวันที่7 แล้วจะท้องทั้ยครับโอกาสท้องมากหรือร้อยแค่ไหนครับ ขอบคุณครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)