ถ้าหมาเดินไม่ได้แล้วเกิดอาการขาหน้าชักไม่หยุดเลยควรทำอย่างไงดีค่ะ แล้วก็มีอีกตัวที่เป็นแต่ตัวนี้เดินได้แค่ขาหน้า2ข้างขาหลังเดินไม่ได้ละตัวก็เป็นแผลด้วยค่ะ

ต้องแยกอาการก่อนว่าชักจริงหรือเป็นแค่อาการทางระบบประสาท
การชักมี 3 ระยะค่ะ
1. ระยะก่อนชัก สุนัขบางตัวจะมีอาการผิดปกติไป เช่น วิ่งมาคลอเคลีย นิสัยเปลี่ยน เป็นต้น
2. ระยะชัก สุนักจะชักเกร็ง เหยียด กระตุก อาจมีน้ำลายไหล ปัสสาวะและอุจจาระราด ระยะเวลาเป็นหลักวินาทีจนถึงนาที
3. ระยะหลังชัก สุนัขบางตัวอาจกลับมาเป็นปกติได้ทันที บางตัวอาจมีอาการเดินเซ เดินไร้จุดหมาย เดินเข้ามุมแล้วออกไม่ได้ มองไม่เห็น บางตัวไม่รู้สึกตัว ระยะเวลาตั้งแต่หลักชั่วโมงจนถึงวันก็มีค่ะ
สาเหตุการชักเกิดได้จาก 2 สาเหตุ หลักๆ คือ
1. มีความผิดปกติในสมอง เช่น โรคลมชัก เยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีเนื้องอกหรือมะเร็ง เกิดจากการเสื่อมตามอายุ มีน้ำในช่องว่างในสมองมากผิดปกติ หรือเป็นโรคไข้หัด เป็นต้น
2. มีความผิดปกติระบบอื่นๆแล้วทำให้มีอาการชัก เช่น น้ำตาลในเลือดต่ำ เป็นโรคตับ โรคไต มีค่าของเสียขึ้นสูง อิเลคโตรไลค์ในเลือดต่ำกว่าปกติ เช่น แคลเซี่ยม โดยเฉพาะในแม่หมาให้นมลูก หรือมีปัญหาพยาธิในเม็ดเลือด เป็นต้น
การวินิจฉัย สัตวแพทย์จะซักประวัติและสอบถามว่าใช่อาการชักจริงหรือไม่ เช่น ชักครั้งแรกมั้ย เกิดขึ้นตอนอายุเมื่อไหร่ ชักนานเท่าไหร่ ก่อนและหลังชักอาการสุนัขเป็นอย่างไร มีอาการกระตุกหรือเกร็งมั้ย มีปัสสาวะอุจจาระราดหรือไม่เป็นต้น อาจจำเป็นต้องตรวจเลือดเพื่อตัดปัญหาความผิดปกติของระบบอื่นๆออกไปก่อน หากตรวจแล้วพบว่าค่าเลือดปกติและสงสัยปัญหาในสมอง คุณหมอจะแนะนำให้ไปสแกนสมอง เพื่อหารอยโรคที่เกิดขึ้น
การรักษา หากเพิ่งชักครั้งแรก ชักแค่ครั้งเดียว และชักไม่นาน หลังจากชัก สุนัขอาการกลับมาเป็นปกติทุกอย่าง แนะนำให้ดูอาการก่อนได้ค่ะ ยังไม่จำเป็นต้องกินยารักษา แต่หากชักหลายครั้งต่อวัน หรือชักนานแล้วหลังชักสุนัขแสดงอาการผิดปกติ จำเป็นต้องได้รับยาระงับชัก ยาระงับชักที่ใช้มี 2 รูปแบบคือ ยากินและยาฉีด ยาฉีดจะใช้ในตอนภาวะฉุกเฉินในรพส และคุณหมออาจจะจ่ายให้เจ้าของติดบ้านไว้เพื่อสวนก้นเมื่อมีอาการชัก ส่วนยากินมีหลายแบบ บางรายกินยาระงับชักแค่ตัวเดียวก็คุมชักได้ บางรายคุมชักไม่ได้ต้องกินยาหลายตัวก็มีค่ะ และหากกินยาระงับชักแล้ว ต้องกินติดต่อกันระยะยาวอย่างน้อย 1 ปี ต้องป้อนเป็นเวลาสม่ำเสมอด้วยค่ะ
แนะนำให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาเพิ่มเติมนะคะ หากอาการไม่ดีขึ้น อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะหากชักเยอะ ชักนาน สุนัขอาจทรุดลงและเสียชีวิตได้ค่ะ

การปฐมพยาบาลสัตว์เลี้ยงที่เกิดอาการชัก
1. อยู่ในความสงบ และตั้งสติ
2. พยายามจัดให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ปลอดภัย เช่น ไม่อยู่บริเวณที่สูง หรือมีสัตว์ตัวอื่นที่อาจเข้ามาทำร้ายได้
3. ห้ามใช้สิ่งของต่างๆหรือมือ เข้าใกล้หรือใส่ปากของสัตว์เลี้ยงขณะชัก
4. ไม่จำเป็นต้องพยายามจับบังคับหรือล็อคตัวสัตว์เลี้ยง ให้ลูบที่ลำตัวของสัตว์และเรียกชื่อเบาๆก็พอแล้ว
5. สามารถใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว และเป่าพัดลมได้เพื่อช่วยลดอุณหภูมิร่างกายหลังจากชัก
6. หากมีภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอขณะมีอาการจะเป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยโรคมากขึ้น
7. หากสัตว์มีอาการชักเกร็งอย่างต่อเนื่อง นานกว่า 5 นาที หรือมีการชักซ้ำ มากกว่า 2 รอบ ภายใน 24 ชั่วโมง ควรพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด

ส่วนอีกตัวที่ 2 ขาหลังเดินได้ ปกติสุนัขจะลาก 2 ขาหลัง หากเลี้ยงในพื้นผิวขรุขระ มักจะทำให้เกิดแผล แต่แผลมักเป็นแค่ที่ขาหลัง แต่หากเป็นบนตัว บริเวณที่ไม่ได้ลากถูพื้น ต้องระวังโรคผิวหนังค่ะ โรคผิวหนังมีหลายชนิด มีการติดเชื้อแบคทีเรีย เช้อรา เชื้อยีสต์ หรือปรสิตภายนอก เห็บหมัด เหา ไรขี้เรื้อน หรืออาจเกิดจากภาวะแพ้ได้ แนะนำให้พาไปตรวจเพิ่มเติมเื่อหาสาเหตุและรักษาต่อนะคะ

หากตรวจแล้วว่าเป็นไวรัสไข้หัดจริง การรักษาจะเป็นการรักษาประคองตามอาการ ไม่มียาฆ่าไวรัสโดยตรง รอให้ภูมิคุ้มกันของสุนัขกำจัดเชื้อออกไปเองค่ะ อาการไข้หัดสุนัข เริ่มแรกมักมีอาการขี้มูกขี้ตาเขียว อาเจียน ท้องเสีย ซึม ไม่กินอาหาร pad ที่เท้ามักหนาตัว อาจมีตุ่มหนองใต้ท้อง หากร่างกายสุนัขสามารถเคลียร์เชื้ออกจากร่างกายได้ สุนัขก็จะไม่แสดงอาการทางระบบประสาท หากเคลียร์ไม่ได้ ไวรัสจะเข้าสอลมองและทำให้เกิดอาการทางระบบประสาท เช่น ชัก กระตุกที่หน้า ปาก ขา เป็นต้น หากมีอาการระบบประสาทแล้วมักจะเป็นไปตลอดชีวิต และมีโอกาสเสียชีวิตได้ค่อนข้างสูงในโรคไข้หัดสุนัข หากมีอาการชักหรือร้องเยอะ คุณหมอจะให้ยาระงับชักมาหรือยาสงบประสาท เพื่อช่วยบรรเทาอาการ หากยังไม่เคยได้รับการวินิจฉัยหรือวินิจฉัยแล้วแต่สุนัขร้องไม่หยุดแนะนำให้พาไปพบสัตวแพทย์เพิ่มเติมนะคะ