ความแตกต่างระหว่างการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก

เผยแพร่ครั้งแรก 26 ก.พ. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
ความแตกต่างระหว่างการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก

ถึงแม้ว่าคำศัพท์ "การแพทย์เสริม" และ "การแพทย์ทางเลือก" จะถูกใช้แทนกันในบางครั้ง แต่การแยกความแตกต่างระหว่างการแพทย์สองชนิดนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยทั่วไปแล้ว การแพทย์เสริม หมายถึง การแพทย์หรือวิธีการรักษาที่ไม่ใช่การรักษาหลัก ที่ใช้ร่วมกับการรักษาหลักในการรักษาโรคหรือภาวะบางอย่าง ในทางกลับกัน การแพทย์ทางเลือก หมายถึง การแพทย์และวิธีการรักษาที่ไม่ใช่ทางหลัก ที่นำมาใช้แทนการรักษาหลัก

แม้ว่าการรักษาจะได้ผล แต่หายากที่ผู้ป่วยจะไม่ใช้การรักษาหลักเลยและเลือกใช้การแพทย์ทางเลือกเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ การรักษาหลายชนิดที่แพทย์ทางเลือกใช้ก็ถูกใช้ในการแพทย์เสริมเช่นกัน เพื่อวัตถุประสงค์นี้แล้ว แพทย์ทางเลือกส่วนใหญ่จึงมุ่งสร้างความสัมพันธ์ทางวิชาชีพกับแพทย์แผนปัจจุบันของผู้ป่วย โดยมีวัตถุประสงค์ร่วมกันคือคำนึงถึงสุขภาพของผู้ป่วยเป็นสำคัญ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

การแพทย์ทางเลือก การแพทย์เสริม และการแพทย์ผสมผสาน

ในทศวรรษนี้ การแพทย์ผสมผสานถูกเลือกใช้มากขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ การแพทย์แบบผสมผสานจะรวมทั้งการรักษาจากการแพทย์แผนปัจจุบันและการรักษาจากการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือกที่มีหลักฐานสนับสนุนเรื่องความปลอดภัยในการใช้รักษาแล้ว

ตามที่ NCCIH (National Center for Complementary and Integrative Health) ชี้ให้เห็นคือ นักวิทยาศาสตร์กำลังหาประโยชน์ที่น่าจะได้จากการแพทย์ผสมผสานในบางสถานการณ์ เช่น การระงับความเจ็บปวด ทั้งในด้านการทหารและในผู้ป่วยโรคมะเร็ง

ทำไมคนจึงเลือกรักษาด้วยการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก

อ้างอิงจาก NICCH กว่า 30% ของผู้ใหญ่ และ 12% ของเด็กในประเทศสหรัฐอเมริการักษาด้วยการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Oshsner Journal ในปี ค.ศ. 2012 ที่นักวิจัยวิเคราะห์งานวิจัยที่ตีพิมพ์ก่อนหน้านี้ 16 ฉบับที่ทำเกี่ยวกับเรื่องการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งพบว่าอาการปวดหลัง ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ไมเกรน และอาการทางกระเพาะเหล่านี้เป็นภาวะที่ถูกรักษาด้วยการแพทย์แผนดังกล่าวมากที่สุด

ในบางกรณี การรักษาแบบการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือกจะถูกใช้เพื่อรักษาผลข้างเคียงจากการรักษาแบบแผนปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น มีหลักฐานว่าการฝังเข็มและการนวดอาจมีประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังได้รับยาเคมีบำบัดหรือผู้ที่กำลังฉายแสงเพื่อรักษาโรคมะเร็ง

ประเภทของการรักษาแบบการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก

จากการสำรวจของ NHIS (National Health Interview Survey ซึ่งเป็นรายงานที่จัดทำขึ้นโดยศูนย์ควบคุมโรค หรือ Centers for Disease Control และ Prevention's National Center for Health Statistics) ในปี ค.ศ. 2012 ผู้ทำการสำรวจได้กำหนดรูปแบบการรักษาของการแพทย์ทางเสริมและการแพทย์เลือกที่ใช้กันมากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งต่อไปนี้จะเป็นสิ่งที่พวกเขาค้นพบ

1. ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ

อ้างอิงตาม NHIS ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเป็นสิ่งที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือกในคนอเมริกัน ที่จริงแล้วการสำรวจยังพบว่า 17.7% ของผู้ใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกาใช้อาหารเสริม (ที่นอกเหนือไปจากวิตามินและเกลือแร่) ในปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจประกอบไปด้วยสมุนไพร โพรไบโอติก (probiotics คือ แบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งพบในลำไส้ใหญ่) กรดไขมันโอเมก้า 3 และอาหารเสริมชนิดอื่นๆ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

2. การรักษาด้วยการเคลื่อนไหว

เทคนิคการรักษาด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายที่สัมพันธ์กับจิต เช่น โยคะ ไทชี่ และจี้กง เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการรักษาแบบการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือกที่ใช้กันบ่อย งานวิจัยบางชิ้นยังระบุว่า เทคนิคดังกล่าวอาจช่วยในการรักษาภาวะที่ทำให้เกิดความเจ็บปวด เช่น ข้อเสื่อมด้วย

3. ศาสตร์การจัดกระดูก (Chiropractic หรือ Osteopathic Manipulation)

8.4% ของผู้ที่ได้รับการสำรวจโดย NHIS เลือกรักษาด้วยศาสตร์การจัดกระดูก โดยพบว่า การรักษานี้สามารถบรรเทาภาวะต่างๆ ได้ เช่น อาการปวดหลัง

4. ยา

8% ของผู้ที่ได้รับการสำรวจโดย NHIS ใช้ยา ซึ่งใช้รักษาบางภาวะ เช่น โรคนอนไม่หลับและโรควิตกกังวลในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์บางชิ้นด้วย

5. การนวด

การนวดมักใช้เพื่อคลายความเครียด ซึ่งน่าจะช่วยในการรักษาภาวะบางอย่าง เช่น ภาวะซึมเศร้าและความดันโลหิตสูงได้ด้วย

การรักษาด้วยการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก

การใช้การรักษาในแนวทางดังกล่าวอาจมีประโยชน์หลายอย่าง แต่ก็ควรพูดคุยกับแพทย์และผู้ให้การรักษาแก่คุณทุกคนเกี่ยวกับการรักษาชนิดต่างๆ ที่คุณได้รับอยู่ ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์สูงสุดทางสุขภาพของคุณเอง


4 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Sara Calabro, Defining Complementary and Alternative Medicine (https://www.everydayhealth.com/alternative-health/the-basics.aspx)
nhs.uk, Complementary and alternative medicine (https://www.nhs.uk/conditions/complementary-and-alternative-medicine/)
medlineplus.gov, Complementary and Integrative Medicine (https://medlineplus.gov/complementaryandintegrativemedicine.html)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)