September 06, 2019 23:58
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากมีอาการในลักษณะที่คล้ายการเป็นโรคกระเพทะแต่ได้รับประทานยาตามรูปที่แนบมาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์อายุรกรรมเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อนครับ เพราะโดยปกติแล้วถ้าเป็นโรคกระเพาะทั่วไป หลังรับประทานยาลดกรดตามรูปแลเวประมาณ 1 เดือนอาการก็มักจะหายไปได้แล้ว และถ้าหากหลังพบแพทย์และให้การรักษาเพิ่มเติมแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นก็อาจมีความจำเป็นต้องส่องกล้องกระเพาะอาหารดูอีกครั้ง เนื่องจากอาจจะมีแผลในกระเพาะอาหาร การติดเชื้อในกระเพาะอาหาร หรือก้อนเนื้อที่ผิดปกติซ่อนอยู่ได้ครับ
ส่วนเรื่องการไปพบจิตแพทย์นั้นจากอาการที่เล่ามายังไม่ได้มีอาการใดที่ชัดเจนที่จะบ่งบอกถึงปัญหาด้านจิตใจครับ ถ้าหากความเครียดที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ไม่ได้รุนแรงจนทำให้รับมือไม่ได้ ก็อาจไปพบแพทย์อายุรกรรมเพื่อตรวจประเมินอาการเกี่ยวกับโรคกระเพาะดูก่อนในอันดับแรก และถ้าหากแพทย์อายุรกรรมมีความเห็นว่าสาเหตุอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาทางด้านจิตใจ ก็จะมีการส่งตัวไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการอีกครั้งครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
เพิ่มเติมจากคุณหมอนะคะ
ในกรณีที่เคยได้รับการรักษาควบคู่กันทั้งโรคกระเพาะและภาวะเครียด นักจิตอยากให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กาย-จิตใจ ทำงานประสานกัน การที่มีอาการทางด้านจิตใจ อาจส่งผลให้อาการทางกายกำเริบ หรือเรื้อรังได้ และในทางกลับกัน การที่มีโรคทางกายเรื้อรังรักษามาเป็นเวลานานย่อมกระทบต่อสภาวะทางด้านจิตใจได้เช่นกันนะคะ
ในกรณีนี้..เดิมมีโรคกระเพาะอยู่แล้ว + มีภาวะเครียดทั้งเรื่องเรียน วิจัย เรื่องจบ เรื่องงาน นักจิตอยากให้ประเมินภาวะเครียดเพิ่มเติมนินึงนะคะ
ประเมินดูว่าภายใน 1-2 เดือน มีอาการเหล่านี้เกิน 17 ข้อหรือไม่
1.นอนไม่หลับ มีเรื่องกังวลใจ
2.หงุดหงิด รำคาญใจ
3.ทำอะไรไม่ได้เพราะประสาทตึงเครียด
4.วุ่นวายใจ
5.ไม่อยากพบใคร
6.ไม่มีความสุข เศร้าหมอง
7.ปวดหัว
8.หมดหวังในชีวิต
9.รู้สึกไร้ค่า
10.กระวานกระวาย
11 ขาดสมาธิ
12 อ่อนเพลีย
13.เหนื่อยหน่าย
14 ใจเต้นเร็ว
15เมื่อไม่พอใจจะเสียงสั่น ปากสั่น
16กลัวผิดพลาดในการทำสิ่งต่างๆ
17 ปวดเกร็ง ท้ายทอย หลัง ไหล่
18ตื่นเต้นง่าย
19 มึน งง วิงเวียน
20 ความสุขทางเพศลดลง ขาดความใส่ใจในการดูแลตัวเอง
หากประเมินแล้วมีอาการเกิน 17 ข้อ แนะนำพบจิตแพทย์ควบคู่กันไปด้วยนะคะ
หรือ จะลองผ่อนคลายความเครียดด้วยตนเอง ดังนี้
1. ฝึกปรับความคิด ปล่อยวาง ลดความคาดหวังลง ทำให้เต็มที่และดีที่สุด ผลออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับและหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขกันต่อไป
2. หมั่นไปออกกำลังกาย
3. แบ่งเวลาทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย
4. หาเวลาไปพักผ่อนหย่อนใจ เปิดมุมมองและประสบการร์ใหม่ๆ
5.หาที่ปรึกษาพูดคุยระบายปัญหา หรือความรู้สึกออกมา หรือร่วมแชร์ รับฟังปัญหาของคนอื่นๆ คนทุกคนมีปัญหากันทั้งนั้น บางคนมีปัญหาหนักกว่าเราหลายเท่า แต่เขาก็ปรับตัวได้ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ควรตรวจและรักษาอาการของโรคกระเพาะก่อนนะคะ และ หากอาการไม่ดีขึ้น คุณหมออาจส่งปรึกษาจิตแพทย์ตามลำดับเพื่อให้การรักษาควบคู่กันไปนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ คือ 3-4 ปีก่อนหนูเป็นแผลในกระเพาะค่ะ แล้วรักษามาตลอด หมอสั่งงดยา พักใหญ่ๆก็กลับมาเป็นอีก เทียวเข้าโรงบาลตลอด แล้วเมื่อต้นปีล่าสุด ก็ได้เข้าโรงบาล ส่องกล้องปกติค่ะ แต่เพิ่มเติมคือ หมอที่ดูแลเรื่องกระเพาะ ได้ส่งเรื่องหาจิตเวชค่ะ ช่วงนั้นเลยได้รักษาควบไปเลยค่ะ ทานยากระเพาะ แล้วยาจิตเวชร่วมด้วย หมอที่รักษากระเพาะได้แจ้งอาการว่าเป็นภาวะเครียดลงกระเพาะ เเต่ก็ในครอบครัวก็ไม่มีใครเชื่อ มองว่ายังเด็กจะเอาเรื่องเครียดมาจากไหน (ปี 3 แล้วค่ะ อายุ 21ปี ) ส่วนทางหมอจิตเวชก็บอกอาการอาจเป็นเรื่องวิตกกังวล ให้ยาในเรื่องการนอนหลับ และก็ได้บอกว่าอาการนี้ไม่ได้น่าเป็นห่วงมากประเมินเรื่องซึมเศร้า ก็อยู่ในระดับเกือบกลางๆ และหมอจิตเวชก็ได้นัดวันห่างออกไป แต่หนูไม่ได้ไปหาอีกเลยค่ะ ยาก็ไม่ได้รับทานต่อ เพราะไม่อยากที่จะคิดไปเองว่าตัวเองเป็นแบบไหน กลัวว่าพยาบาลถามอาการแล้วเราไปซึมซับอาการของคนอื่นมาแล้วทำให้เราคืดไปเองว่าเราเป็นแบบนั้น จนปัจจุบันขึ้น ปี4 ค่ะ เรื่องเรียน เรื่องวิจัย เรื่องจบ เรื่องงาน ทับถมไปหมด แล้วเหมือนอาการของกระเพาะจะกำเริบค่ะ #อาการคือ หิว แต่ทานได้นิดเดียวแต่รู้สึกเหมืนอิ่มมากจนอยากจะอาเจียน จนตอนนี้น้ำหนักลดลงมากแล้วค่ะ ไม่กล้าที่จะไปบอกแม่ ไม่กล้าที่จะไปหาหมอ ได้แต่เข้าหาเภสัทค่ะ ก็ไม่ได้ตรวจอะไร ก็จัดยา แล้วช่วยให้อาการบรรเทาลง แต่ก็ยังทานข้าวได้น้อย หิวแต่ทานได้3-4 คำ ก็จะอาเจียนตลอด เลยอยากจะมาปรึกษาค่ะ ว่ามันควรจะเป็นอย่างไร แก้อย่างไร แล้วที่เป็นอยู่นี้ควรไปหาหมอไหนรักษากันแน่ค่ะ ตอนนี้ก็ทานยาตามรูปที่แนบอยู่นะคะ ทานมาสองกล่องแล้วค่ะ เหมือนจะดีแต่ก็เหมือนเดิม เป็นยาที่ซื้อจากเภสัทนะคะ **รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ ยาวหน่อยแต่อยากให้ระเอียด** ขอบคุณมากๆค่ะ เครียดมาก.
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)