July 08, 2018 17:21
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
เลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าจะท้องหรือไม่ท้องค่ะ เป็นแค่เพียงผลข้างเคียงจากยาเท่านั้นเอง
ให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่นะคะ หากไม่มีประจำเดือนมา แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ค่ะ
และถ้าใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ แนะนำให้ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน (ปัสสาวะแรกของวัน) ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
ปกติยาคุมฉุกเฉินแบบ ชนิด2เม็ดรับประทาน ทันที หรือรับประทาน1เม็ด ทุก12ชั่วโมงนั้น จะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งทำให้ผนังมดลูกหนาตัวมากขึ้นไม่เหมาะแก่การตั้งครรภ์ และภายหลังรับประทานยาแล้วภายในประมาณ1อาทิตย์จะมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้ครับ หากรับประทานภายใน72ชั่วโมงแรก โดยเฉพาะใน24ชั่วโมงแรกแล้ว ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดค่อนข้างดีครับ ประมาณ75-85เปอร์เซ็นต์
โดยในกรณีคนไข้โอกาสท้องค่อนข้างน้อยครับ จากอาการที่แจ้งมา อย่างไรก็ตามควรรอรอบประจำเดือนปกติอีกครั้ง หากประจำเดือนมาช้ากว่าปกติประมาณ1อาทิตย์ควรซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจเพื่อดูว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่
-การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน อาจเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ และยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรใช้เป็นประจำ ใช้ในกรณีถุงยางฉีดขาด เป็นต้น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วถ้ารับประทานยาช่วง14วันแรกของรอบเดือน ยาจะได้ผลไหมค่ะ.
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ใช้ยาคุมฉุกเฉินแล้วจะมีโอกาสตั้งครรภ์มากหรือน้อย?
ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่สูงเหมือนกับวิธีคุมกำเนิดปกติค่ะ นั่นคือ หากพิจารณาประสิทธิภาพสูงสุดในการคุมกำเนิดแต่ละวิธี ถ้าใช้ได้ถูกต้องและเหมาะสม จะพบว่า
- การใช้ยาคุมรายเดือน มีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3%
- การใช้ถุงยาง มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2%
- การใช้ยาคุมฉุกเฉิน มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15%
จากตัวเลขดังกล่าว คงไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินจะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อย เพราะเมื่อเทียบกับวิธีใช้ยาคุมรายเดือน ถือว่าเสี่ยงมากกว่าหลายเท่า คงบอกได้แค่โอกาสตั้งครรภ์น่าจะน้อยกว่าการไม่รับประทานค่ะ
จึงไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ หรือใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกตินะคะ
..
..
..
2. ถ้ารับประทานในช่วง14วันแรกของรอบเดือน จะได้ผลหรือไม่?
แม้ว่าไข่มักจะตกในช่วงกึ่งกลางของรอบเดือน แต่รอบเดือนตามธรรมชาติในแต่ละคนอาจสั้นหรือยาวกว่า 28 วันได้ค่ะ กึ่งกลางของรอบเดือนจึงไม่ใช่วันที่ 14 เสมอไป รวมถึงฮอร์โมนอาจคลาดเคลื่อนและส่งผลให้ไข่ตกเร็วหรือช้าไปจากวันที่คาดไว้ได้อีก ดังนั้นความเสี่ยงในการตั้งครรภ์จึงไม่ได้พิจารณาจากแค่ 14 วันแรกหรือ 14 วันหลังของรอบเดือนนะคะ
ในงานวิจัยใหม่ ๆ เกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉิน ชี้ว่ากลไกหลักของยาคือการชะลอไข่ตกค่ะ แต่ถ้ามีไข่ตกแล้วในช่วงนั้นพอดี โดยเฉพาะถ้าไข่ที่ตกออกมาได้ผสมกับอสุจิไปแล้ว ยาก็อาจไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์
จึงบอกไม่ได้ค่ะ ว่าการที่ผู้ถามรับประทานยาในช่วง 14 วันแรกของรอบเดือนแล้วยาจะได้ผลหรือไม่ เพราะไม่ทราบว่าไข่จะตกมาจริง ๆ วันไหน ซึ่งหากมีไข่ตกไปแล้วในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะตั้งครรภ์ค่ะ
ดังนั้น แนะนำให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่นะคะ เพราะถ้าไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรืออาจคลาดเคลื่อนไม่กี่วันค่ะ และหากไม่มีประจำเดือนมา ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้าเรารับประทานยาคุมฉุกเฉนแล้ว มีเลือดออกกระปริบกระปอยภายใน7วัน นี่คือไม่ท้องแล้วใช่มั้ยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)