June 08, 2019 07:02
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
ประจำเดือนในแต่ละครั้งมักจะห่างกันประมาณ 28 วัน บวกลบ 7 วันครับ ในกรณีที่ประจำเดือนมาช้าอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ยกตัวอย่างเช่น เครียด วิตกกังวล น้ำหนักลด อ้วนการออกกำลังกายอย่างหนัก ผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิด การคิดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ ฮอร์โมนเพศมีความผิดปกติ ถุงน้ำในรังไข่หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบสืบพันฑุ์ หรือมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น เป็นต้นครับ
ในกรณีที่มีการหลั่งนอก การหลั่งนอกเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำ นั่นหมายความว่ามีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ครับ เพราะระหว่างที่มีการสอดใส่ มีโอกาสที่น้ำอสุจิจะไหลออกมาได้โดยที่ฝ่ายชายไม่รู้ตัวครับ เบื้องต้นหากกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ แนะนำให้รออย่างน้อย 14 วันหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด ค่อยซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจในตอนเช้าครับ จะช่วยยืนยันได้ดีว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ หรือถ้าประจำเดือนมาตามรอบปกติหรืออาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ก็แปลว่าไม่ตั้งครรภ์ครับ
และในครั้งต่อๆไป หากยังไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์ ควรมีการคุมกำเนิดโดยสวมถุงยางอนามัยเป็นอย่างน้อยนะครับ การหลั่งนอกมีโอกาสตั้งครภร์ได้สูง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ การหลั่งนอกเป็นวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ประสิทธิภาพไม่สูงนัก มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4-22%ค่ะ กรณีที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว 14 วันหรือประจำเดือนขาดเกิน 1 สัปดาห์สามารถตรวจการตั้งครรภ์จากปัสสาวะได้ โดยตรวจในตอนเช้าหรือปัสสาวะแรกของวันจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด กรณีมีอาการเจ็บหน้าอก สิวขั้น ท้องเสีย หงุดหงิดง่าย หรือคิดว่าเป็นอาการเตือนก่อนมีประจำเดือนอาจไม่ใช่อาการจำเพาะเสมอไปค่ะ แต่ถ้าตรวจการตั้งครรภ์แล้วได้ผลเป็นผลก็ลองรอดูประจำเดือนมาก่อน ซึ่งมีหลายสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาช้าหรือมาผิดปกติได้ เช่น อาจเกิดจากฮอร์โมนเพศไม่สมดุล อ้วนเกินไป หรือ น้ำหนักน้อยเกินไป ออกกำลังกายมากเกินไป มีความเครียด ผิดปกติทางโครงสร้างของมดลูก โรคขาดอาหาร โรคถุงน้ำรังไข่ (polycystic ovary syndrome) การให้นมบุตร การคุมกำเนิดบางประเภท เป็นต้นค่ะ และถ้าประจำเดือนขาดติดต่อนานเกิน 3 เดือนแนะนำให้ไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เดือนที่แล้วเป็นปจด. วันที่4 แต่เดือนนี้วันที่8แล้วปจด.ยังไม่มีเลยคะ มีเพศสัมพันธ์แต่หลั่งนอกคะ จะท้องไหมคะ แต่มีอาการก่อนที่จะเป็นปจด.ทุกอย่าง เช่น เจ็บหน้าอก สิวขั้น ท้องเสีย หงุดหงิดง่ายกว่าที่เคย ควรทำยังไงคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)