November 25, 2019 13:52
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากที่ผ่านมานังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนมาก่อนและก็ยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบี หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีให้ครบ 3 เข็มอีกครั้งก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันและปลอดภัยจากการติดเชื้อครับ
แต่ถ้าหากจะมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างนี้ หมอก็แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ดูคำถามและคำตอบอื่นที่คล้ายกัน
ปลายอวัยวะแฟนรูดลงได้ไม่สุดข้างในแดงๆเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์เป็นๆหายๆมาสักพักแล้ว
สวัสดีครับคุณหมอ พอดีวันนี้ผมมีอะไรกับแฟนครับ แล้วผมก็ได้ใส่ถุงยางนี่แหละครับ แต่ว่าพอผมใส่เข้าไปรอบแรกแล้วเหมือนถุงยางมันเหมือนจะหลุดครับ ผมก็เลยเอาของผมออกมาแล้วดึงถุงยางให้ตึงครับ แล้วพอผมใส่เข้าไปอีกรอบ(ใส่เข้าไปเฉยๆเลยครับ) แล้วถุงยางเกิดแตกครับ //แฟนประจำเดือนพึ่งหมดเมื่อวานครับ หมอพอมีคำแน...
มีอะไรกันแต่เขาบอกว่าเขาเอาออกทันไม่ได้ใส่ถุงยาง จะท้องไหมค่ะหนูกังวลวันนี้วันที่2
คำถามนะคะ 1.ทานยาคุมตอนเวลา22:30น. แต่ว่ามีเพศสัมพันธ์ หลายครั้งใน1วัน จะมีโอกาสเสี่ยงท้องสูงไหมคะ 2.ทานยาคุมแล้วสามารถทานยาขาวได้ไหมคะ ทานแล้วจะทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมลดลงไหม 3.ทานยาคุมแล้วใน1วันสามารถทานนม ได้ไหมคะ เห็นมีคนบอกวว่ามันจะล้างยา 4.ทานยาคุมแล้วจะมีฝ้าขึ้นไหมคะ พอดีพี่เรามีฝ้าขึ้น 5...
อยากท้อง แต่หนูหลั่งในหลังกินยาคุมฉุกเฉิก จะท้องมั้ยค่ะ ?
มีแฟนเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี (ติดมาจากคุณแม่ตั้งแต่เกิด) ส่วนตัวผมเคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้แล้ว แต่ฉีดไม่ครบ (ขาดเข็มที่3เข็มสุดท้าย) ภูมิคุ้มกันจึงไม่ขึ้น (ทราบจากการตรวจสุขภาพประจำปี) อยากทราบวิธีการปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคดังกล่าวเบื้องต้น (ปัจจุบันยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ชีวิตร่วมกันครับ) และหากต้องการฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้อีกครั้ง ต้องรอให้ฉีดครบ3เข็มและต้องตรวจระดับภูมิคุ้มกันว่ามีแล้วให้แน่ใจก่อน จึงจะป้องกันได้100%ใช่ไหมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)