สวัสดีค่ะ ตอนนี้มีอาการหลอนๆเหมือนฝันร้าย แต่ไม่ใช่ฝัน เป็นความคิดที่วกวนไปมาตั้งแต่ในอดีตเมื่อ1ปีที่แล้ว มีน้ำตาไหลซึมโดยไม่รู้ตัวว่าคิดอะไรอยู่ รู้สึกกลัวเสียงดัง กลัวเสียงดุ กลัวโดนตี กลัวการอยู่คนเดียว ไม่กล้าไปทำงานนอกบ้าน กลัวการสื่อสารกับคนอื่น จะคุยสนิทเฉพาะกับคนที่รู้สึกไว้ใจได้เท่านั้นซึ่งมีอยู่1-2คน ไม่ชอบคนในครอบครัว ไม่อยากอยู่บ้าน ระยะเวลาที่เป็นมาตลอด 4 เดือนแล้ว มีการคิดอยากหนีออกจากบ้าน เคยคิดจะทำร้ายตัวเอง เคยคิดอยากกินยาฆ่าตัวตาย เมื่อมีอะไรมากระทบจิตใจ ก็จะหลอกตัวเองว่าไม่เป็นไรมากหรอกพยายามหากำลังใจให้ตัวเองโดยการกิน การกินบางช่วงกินน้อยลง บางช่วงกินมาก แต่ระยะ3เดือนมานี้ กินเยอะจนน้ำหนักขึ้นมา หลับๆตื่นๆ พอถูกปลุกกลางดึกแล้วหลับยาก และทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาจะปวดหัว และระยะที่มีอาการนี้ติดเล่นโทรศัพท์มือถือเกือบตลอดเวลา บางครั้งก็นอนน้อยจนเวียนหัวคลื่นไส้ เวลามีปัญหาส่วนใหญ่ไม่สามารถปรึกษาหรือคุยกับใครได้ เหนื่อยง่าย ใจสั่นบางครั้งที่เครียด ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ อยากทำอะไรก็ทำ จะมีอยู่ช่วงหนึ่งช้อปออนไลน์เยอะมาก จนคนในครอบครัวด่า ทำให้รู้สึกเกลียดคนในครอบครัวเลย ตอนนี้กินยาsertraline มาประมาน11เดือนแล้ว รบกวนขอคำแนะนำหน่อยค่ะ ว่าควรทำอย่างไรได้บ้าง ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าค่ะ

สวัสดีครับ
จากข้อมูลในเบื้องต้นนั้นอาจเข้าได้กับโรคทางด้านจิตใจบางอย่าง เช่น โรคซึมเศร้า หรือโรคอารมณ์สองขั้ว ครับ

แต่ถ้าหากประเมินจากยา Sertraline ที่รับประทานอยู่หมอก็คาดเดาว่าแพทย์ที่ตรวจน่าจะประเมินว่าเป็นโรคซึมเศร้านะครับ ถ้าหากมีความผิดพชาดประการใดในส่วนนี้ก็สามารถแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ

โดยปกติแล้วเมื่อได้รับประทานยาต้านโรคซึมเศร้าอาการมักจะค่อยๆเริ่มดีขึ้นภายใน 4 สัปดาห์หลังรับประทานยา และถ้าหากผ่านไป 8 สัปดาห์แล้วอาการยังคงหลงเหลืออยู่มากก็จะต้องมีการพิจารณาการวินิจฉัยใหม่อีกครั้งรวมถึงอาจต้องมีการปรับขนาดยาให้สูงมากขึ้นหรือเปลี่ยนหรือเพิ่มชนิดของยาที่รับประทานครับ

ดังนั้นถ้าหากคุณรับประทานยา Sertraline มานาน 11 เดือนแล้วยังมีอาการหลงเหลืออยู่มากก็ควรบอกเล่าอาการกับแพทย์ให้เห็นภาพมากขึ้นว่าอาการของคุณหลงเหลืออยู่มากน้อยแค่ไหน เพื่อที่แพทย์จะได้พิจารณาปรับยาให้เหมาะสมมากขึ้นครับ

นอกจากนี้ก็ควรหาเวลาผ่อนคลายพักผ่อนให้กับตัวเอง หาคนคุยด้วย ระบายความรู้สึกให้คนอื่นช่วยแบ่งเบาบ้าง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากิจกรรมที่ชอบทำไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นดนตรี ฯลฯ รวมถึงอย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ควรมีเวลาให้ตัวเองได้ใช้ตามปกติ ไม่เช่นนั้นก็อาจทำให้เศร้าและจมอยู่กับอารมณ์ของตัวเองได้มากขึ้นครับ

ในกรณีที่ทานยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น ยังคงปรับตัวได้ยาก หรือมีอาการประสาทหลอนเกิดร่วมด้วย แนะนำพบจิตแพทย์อีกครั้ง เล่าอาการผิดปกติให้คุณหมอฟัง ซึ่งคุณหมอจะได้ประเมินอาการ เปลี่ยนวินิจฉัยและปรับแผนการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมตามแนวทางของโรค นะคะ

ในกรณีที่มีความรู้สึกในเชิงลบกับตัวเองเกิดขึ้น อยากหนีไปจากโลกแห่งความเป็นจริงนั้นอาจเกิดจากอาการของตัวโรคซึมเศร้าที่ยังคุมได้ไม่ดีได้ครับ ในกรณีนี้หมอแนะนำให้กลับไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการซ้ำและปรับเปลี่ยนแผนการรักษาใหม่ดีกว่าครับ ไม่ต้องรอให้ถึงวันนัดครับ

ในกรณีนี้อาการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นนั้นอาจมีความเกี่ยวข้องกับโรคที่เป็นอยู่ในขณะนี้หรือไม่ก็ได้ครับ

และในกรณีที่มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงจนต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกนั้น ถือเป็นอาการปวดศีรษะที่อาจมีสาเหตุที่เป็นอันตรายได้ครับ เช่น มีการติดเชื้อในระบบประสาท มีหลอดเลือดในสมองโป่งพอง เนื้องอกต่างๆ ถ้าหากมีอาการปวดศีรษะในลักษณะนี้จึงควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินก่อนว่าไม่ได้เกิดจากสาเหตุที่เป็นอันตรายครับ

ถ้าหากได้รับการตรวจประเมินอาการมาแล้วก็อาจลองรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งมาดูก่อนได้ครับ

ถ้าหากหลังจากนี้ 1-2 วันอาการยังไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น หรืออาการกำเริบรุนแรงมากขึ้นก็สามารถกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการซ้ำได้ครับ