May 25, 2018 11:56
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
โรคหนองในสามารถรักษาได้โดยการกินและฉีดยาฆ่าเชื้อครับ
และถ้าต้องการรักษาให้หายขาดก็จะต้องรักษาคู่นอนของคุณด้วย เนื่องจากเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ดังนั้นแนะนำว่าควรไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจยืนยันว่าใช่หนองในจริงหรือไม่ ถ้าใช่จริงก็จะได้ให้การรักษาต่อไปครับ
และในระหว่างการรักษาควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนครับ หรือถ้าหากจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์จริงๆ ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อทุกครั้งครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
ก่อนอื่นขอทราบหน่อยครับว่าทราบได้อย่างไรว่าตัวเองเป็นโรคหนองใน ลองแจ้งอาการให้ดูหน่อยก็ได้ครับ หรือว่าก่อนหน้านี้มีประวัติมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันมาก่อนหรือไม่ สำหรับอาการของโรคหนองในได้แก่ มีหนองสีเหลืองหรือเขียวไหลออกมาจากส่วนปลายของอวัยวะเพศ เจ็บหรือแสบขณะปัสสาวะ มีการอักเสบของหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ เจ็บ บวมที่ลูกอัณฑะข้างใดข้างหนึ่ง เป็นต้น
ซึ่งวิธีการรักษานั้นหลักๆจะเป็นยาปฏิชีวนะที่สามารถฆ่าเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคหนองในแท้และหนองในเทียม มักจะเป็นยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 1 เข็มร่วมกับยาชนิดรับประทานครับ ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ในการจ่ายยา ยกตัวอย่างเช่น Ceftriaxone, Doxycycline, Azithromycin เป็นต้น อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แนะนำมห้ไปพบแพทย์นะครับ ไม่ควรที่จะซื้อยามารักษาเอง รวมไปถึงอาจจะขอแพทย์ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นด้วยครับ เช่น HIV ซิฟิลิสไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น เพราะโรคเหล่านี้อาจจะติดมาด้วยกันได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ผมพึ่งรู้ว่าเป็นหนองในต้องทำยังไงครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)