July 08, 2019 12:40
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ เนื่องจากยาฉีดคุมกำเนิดจะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดประมาณ3เดือนครับ ฉะนั้น คนไข้ควรตรวจการตั้งครรภ์ก่อนครับ หากไม่พบว่ามีการตั้งครรภ์ แพทย์อาจพิจารณาตรวจภายใน เพื่อหาสาเหตุที่ประจำเดือนขาดที่อาจเกิดได้จากผลข้างเคียงของยาฉีดคุมกำเนิด และสาเหตุอื่นๆเช่น เนื้องอกมดลูก ซีสต์ที่รังไข่ และระดับฮอร์โมนเพศไม่สมดุล เป็นต้น หากไม่พบความผิดปกติ และไม่พบการตั้งครรภ์ จึงจะสามารถเริ่มใช้ยาคุมกำเนิดต่อได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สามารถทานยาคุมฉุกเฉินได้ใช่มั้ยคะ
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินสามารถทานได้ภายหลังมีความเสี่ยง ไม่เกิน120ชั่วโมง หรือ5วันครับ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ประมาณ80%
หากเกินระยะเวลาแล้วประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์จะลดลงครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณค่ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ในช่วงที่ฉีดยาคุมกำเนิดโดยเฉพาะถ้าหากฉีดยาคุมชนิด 3 เดือนอาจมีผลข้างเคียงทำให้ประจำเดือนขาดหายไปได้ และการขาดประจำเดือนนี้ก็อาจเป็นต่อไปได้อีกระยะหนึ่งหลังครบกำหนดฉีดยาคุม
อย่างไรก็ตามช่วงที่เลยกำหนดฉีดยาคุมไปแล้วก็จะต้ิงถือว่ามีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้สูงถ้าหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันครับ ในกรณีนี้หมอแนะนำให้หายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดก่อน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ไม่ว่าผู้ถามจะเคยฉีดยาคุมชนิด 3 เดือน หรือ 1 เดือนก็ตาม แต่นับจากเข็มสุดท้ายที่ฉีดในเดือนกุมภาพันธ์ มาจนถึงวันนี้ก็จะเกินกรอบระยะเวลายืดหยุ่นที่ให้ฉีดยาช้ากว่ากำหนดไปแล้ว จึงถือว่าไม่มีผลป้องกันจากยาคุมที่เคยฉีดแล้วนะคะ
ดังนั้น หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือป้องกันด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำ ก็มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากค่ะ
ในกรณีนี้ ถ้ายังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้คุมกำเนิดฉุกเฉินนะคะ ซึ่งมี 2 ทางเลือก ได้แก่
1. รับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
แต่วิธีนี้มีประสิทธิภาพไม่สูงนัก ผู้ใช้ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ค่ะ และไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทาน
2. ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ (แต่จะใช้วิธีนี้ได้ในเฉพาะกรณีที่ผู้ถามไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์มาก่อนเหตุการณ์ครั้งล่าสุด)
วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงมาก ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.6 - 0.8% และมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้นาน 3 - 10 ปี ขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ฉีดยาคุมกำเนิดตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภา และไม่ได้มีการฉีดต่อ ตั้งแต่ฉีดยาคุมจนถึงปัจจุบันประจำเดือนยังไม่มาเป็นปกติเลย อยากถามว่า มีเพศสัมพันแล้วเกิดหลุด คัดหลั่งภายในไปนิดหน่อย จะท้องมั้ยต้องทานยาคุมฉุกเฉินมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)