October 10, 2018 23:30
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
กินสองแผงใน1เดือน ไม่ควรทำครับ เพราะยาคุมฉุกเฉินมีฮอร์โมนที่สูง จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล ทำให้ประจำเดือนเลื่อนได้ครับ
โดยปกติ หลังรับประทานยาจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ไปตรวจการตั้งครรภ์ครับ
โดยกรณีคนไข้หมอเเนะนำเพิ่มเติมดังนี้ครับ
1.ตอนนี้ให้ตรวจการตั้งครรภ์ได้เลย ถ้าไม่ท้อง รออีกหนึ่งอาทิตย์เเล้วตรวจซ้ำครับ (ต้องดูด้วยครับ ปกติตรวจการตั้งครรภ์จะตรวจได้เร็วสุดประมาณ14วันหลังมีเพศสัมพันธ์รอบล่าสุด) ถ้าไม่ท้อง ก็รอประจำเดือนมาเลยครับ เเล้วค่อยเริ่มใช้วิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมเเบบเเผงรายเดือน , ยาฝัง ยาฉีดคุมกำเนิด ระหว่างนี้ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
เหตุผลที่แพทย์และเภสัชกรไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ ไม่ใช่เพราะกังวลเรื่องอันตรายจากยาหรอกค่ะ เนื่องจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นไม่ได้มีอันตรายรุนแรงหรือถาวร
แต่เป็นเพราะประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่สูงเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกติ ตัวอย่างเช่น
- ต่อให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินเร็วแค่ไหน ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15%
- แต่ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึม จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 2%
- หรือถ้ารับประทานยาคุมรายเดือนถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.3%
ดังนั้น การใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ แทนการคุมกำเนิดปกติ จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากกว่าที่ควรเป็นหลายเท่านะคะ
..
..
..
ตามข้อมูลที่ให้มา มีโอกาสตั้งครรภ์ได้มาก โดยเฉพาะกับการมีเพศสัมพันธ์ในรอบหลังค่ะ โดยมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ตามประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉิน
แนะนำว่า หากประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติ ให้ตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นประจำเดือนมักจะยังมาในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับกำหนดการเดิมอยู่ครับ หรือถ้ามีการคลาดเคลื่อนก็มักคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยประมาณ 4-5 วันเท่านั้น และการรับประทานยาคุมฉุกเฉินเองก็ไม่ใช่วิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพมากนัก คือ หลังรับประทานยาแล้วจะยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างเหมาะสมประมาณ 15-25%
ดังนั้นถ้าหากมีการขาดประจำเดือนไปเป็นเวลานานหมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก้จะใฟ้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
และครั้งต่อไปถ้าหากจะมีเพศสัมพันธ์อีกก็ควรมีการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ เช่น ใช้ถุงยางอนามัย ยาคุมกำเนิดแบบรายเดือน
ส่วนยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้นควรเก็บไว้ใช้เป็นทางเลือกสุดท้ายในกรณีที่ไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นเท่านั้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
กินยาคุมฉุกเฉินภายใน1เดือน กินไป 2แผง เหตุการณ์คือ ประจำเดือนมาประมาณวันที่ 21-23 ส.ค แร้ววันสุดท้ายที่ประจำเดือนมามีอะไรแต่ซืีอยามากินประมาณวันที่26 ส.ค และก็กินยาอีกทีห่างจากเดิม 2 อาทิต ก็คือกินประมาณ 2แผง อย่างที่กล่าวข้างต้น และตอนนี้ เดือนตุลาคม ประจำเดือนยังไม่มา จะมีโอกาสท้องมั้ยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)