August 02, 2018 16:50
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
ในกรณีที่เกินกว่า 72 ชั่วโมงไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยวัณโรคหรือคนปกติ.การรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้ไม่ดี มีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงคะ ไม่ว่าจะรับประทานยาวัณโรคอยู่หรือไม่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อ การคุมกำเนิดมากเท่าไหร่เนื่องจากโอกาสการตั้งครรภ์ที่สูงอยู่แล้วเนื่องจากรับประทานยาคุมค่อนข้างช้าเกินกว่า 72. ชั่วโมงคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขออนุญาตเสริมค่ะ
ผู้ป่วยที่มีการรับประทานยาวัณโรคที่ชื่อว่าไรแฟมพิซิน (Rifampicin) แล้วมีความจำเป็นต้องใช้วิธีคุมกำเนิดฉุกเฉิน หากเกิน 72 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ ใช้ยาคุมฉุกเฉินไม่ทันแล้วค่ะ แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ
การใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.6 - 0.8% เท่านั้น มีผลป้องกันฉุกเฉินได้หากใช้ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และมีผลคุมกำเนิดได้นาน 3 - 10 ปีขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้
...
...
...
ส่วนการรับประทานยาคุมฉุกเฉิน สำหรับผู้ที่ใช้ยาตัวนี้ US MEC 2016 (แนวทางฝั่งอเมริกา) ไม่แนะนำให้ใช้ค่ะ ใช้ได้เพียงการใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงเท่านั้น
ส่วน UK MEC 2016 (แนวทางฝั่งอังกฤษ) แนะนำว่าสามารถใช้ได้ในกรณีที่ยังไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่ต้องใช้ในขนาดที่เป็น 2 เท่าของขนาดปกติ และต้องรับประทานพร้อมกันครั้งเดียว (เช่น ถ้าใช้ยาคุมฉุกเฉินที่เป็นแบบแผงละ 2 เม็ด ก็ต้องรับประทานพร้อมกัน 4 เม็ด) แต่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ดังนั้น การใช้ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ผู้เป็นวัณโรคสามารถทานยาคุมฉุกเฉินได้หรือไปถ้าหากเกิน72ชั่วโมง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)