ติดยาไอซ์มา 10 ปี อยากเลิกแต่ใจไม่แข็งพอที่เลิกเด็ดขาดได้ ไม่กล้าไปหาหมอหรือเข้ารับการบำบัด เนื่องจากกลัวและกังวลใจกลัวใครรู้ว่าเราติดยา กลัวที่บ้านรู้ กลัวที่ทำงานรู้ กลัวเพื่อนรู้ ถ้ามีคนรู้ขึ้นมาผลกระทบกับตัวหนูหนักมากจนรับไม่ไหวแน่ๆ เคยรู้จักพี่คนนึงเขาเราให้ฟังว่าเขาไปหาหมอที่ รพ.รัฐบาลแห่งหนึ่ง หมอรักษาโดยสั่งยามาให้กิน 1 เดือน เขาก็สามารถเลิกเสพยาได้ แต่เขาไม่ได้บอกว่ายาอะไร แต่เป็นยาชนิดเม็ด คำถาม** 1.หนูซื้อยามากินเองโดยไม่ต้องไปพบหมอที่ รพ. ได้ไหม? 2.(ถ้าได้) ช่วยบอกชื่อยากับวิธีกินยาให้หน่อยได้ไหมคะ? เพราะหนูไม่รู้ชื่อยา ไม่รู้ว่าต้องกินยังไงปริมาณเท่าไร หาซื้อยาได้จากที่ไหน 3.หรือมีวิธีไหนไหม? อยากเลิกเสพโดยไม่ต้องไปพบหมอที่ รพ. หนูรบกวนขอคำแนะนำจากคุณหมอหน่อยนะคะ อยากเลิกมากแต่ทำไม่เคยได้จริงๆสักทีคะ (ป.ล. หนูเสพยากับแฟน)

สวัสดีครับ
การเลิกยาไอซ์นั้นสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการใช้ยาครับ และยาที่มีในปัจจุบันก็ไม่มียาชนิดใดที่สามารถใช้ทดแทนฤทธิ์ของยาไอซ์ระหว่างเลิกยาได้ มีเพียงแต่ยาที่ใช้ช่วยบรรเทาอาการเล็กๆน้อยๆเท่านั้น

อุปสรรคสำคัญของการเลิกยาไอซ์คือความอยากยาและอาการที่เกิดจากผลของการถอนฤทธิ์ยาในช่วงแรก เช่น อาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับหรือง่วงนอนมากขึ้น ความคิดแล่นช้าลง อาการวิตกกังวล อารมณ์ซึมเศร้า โดยอาการเหล่านี้มักเป็นมากที่สุดในช่วง 2-3 วันแรกหลังการหยุดยา และอาจเป็นต่อไปได้อีกอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ครับ แต่ถ้าหากสามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ก็มักจะสามารถเลิกยาได้สำเร็จในที่สุด

การที่จะผ่านช่วงเวลาที่มีอาการถอนฤทธิ์ยาได้นั้นจะต้องมีทั้งกำลังใจที่ดีและเทคนิคที่ดี
- กำลังใจที่ดีที่สำคัญที่สุดคือความตั้งใจแน่วแน่ในการเลิกของตัวเอง ควรหาเป้าหมายในการเลิกยาเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวว่าเราต้องการเลิกยาเพื่ออะไรหรือเพื่อใคร และถ้าหากมีการช่วยเหลือจากคนรอบข้างด้วยก็จะยิ่งดีมากครับ
- ในส่วนของเทคนิคนั้นจะต้องมีเทคนิคที่ดีที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ตัวเองกลับไปใช้ยาซ้ำ เช่น การทิ้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเสพยาทั้งหมด การไม่เข้าไปอยู่ในสถานที่หรือสถานการณ์ที่ทำให้คิดถึงการเสพยา รวมถึงการมีทักษะการปฏิเสธเมื่อมีคนมาชักชวนให้กลับไปใช้ยา
ถ้าหากมีสิ่งเหล่านี้พร้อมแล้วก็สามารถหักดิบเลิกยาได้เลยครับ

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้ก็มีโรงพยาบาลและสถานบำบัดยาเสพติดมากมายที่เปิดให้ความช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกใช้ยาเสพติดซึ่งมีบริการดูแลทั้งในรูปแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ที่สำคัญคือการใช้บริการเหล่านี้จะถูกเก็บเป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยให้คนอื่นรู้ได้นอกจากตัวคุณอนุญาต ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าการไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานเหล่านี้จะทำให้คนอื่นรู้ว่าคุณเคยใช้ยาเสพติดมาก่อนเพราะถ้าหากคุณไม่บอกก็ไม่มีทางที่คนอื่นจะรู้ครับ

ถ้าหากประสบปัญหาในการเลิกยาด้วยตนเอง หมอก็คิดว่าหน่วยงานเหล่านี้ยังเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้การเลิกยาประสบความสำเร็จได้ ไม่ควรลังเลที่จะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานเหล่านี้ครับ

ประเด็น คือ หนูมีความวิตกกังวลมากเกินไปที่กลัวว่าหากเข้าบำบัดแล้วจะส่งผลเสียต่างๆนาๆ จุดนี้พี่อยากให้หนูเปิดใจ ยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วมองเห็นแนวทางแก้ไขที่ถูกต้อง จะช่วยให้หนูจัดการกับปัญหาได้ง่ายขึ้นนะคะ

ในเมื่อปัญหาของหนู คือ การติดยาไฮซ์ หนูยอมรับและรู้ว่าควรเลิก แต่ไม่กล้าไปบำบัด และเลิกด้วยตัวเองก็ไม่สำเร็จ อีกทั้งตัวกระตุ้นที่สำคัญที่ทำให้หนูต้องเสพยาคือแฟนอันนี้ถือเป็นปัยหาหนึ่งที่ต้องแก้ไขเช่นกัน

ในเมื่อหนูพยายามเลิกด้วยตัวเองไม่สำเร็จ พี่แนะนำพบจิตแพทยื รับการบำบัดรักษาตามแนวทางที่เหมาะสมจะช่วยให้เลิกยาได้สำเร็จมากขึ้นนะคะ หากเป็นไปได้ควรโน้มน้าวให้แฟนเข้าบำบัดไปพร้อมกันก็จะยิ่งเป็นผลดี

พี่จะตอบคำถามที่หนูสงสัยตามนี้นะคะ
1.ยาที่หนูคิดว่าจะช่วยเลิกยาเสพติดได้นั้นไม่มีนะคะ แต่ยาที่จิตแพทย์ใช้ในการบำบัดส่วนมากจะเป็นยาที่ช่วยบรรเทาอาการถอนยาในช่วงแรกๆที่หยุดใช้สารเสพติด ทำให้อาการทรมานจากอาการถอนยาน้อยลง และทำให้ผู้รับการบำบัดสามารถอดทนที่จะหยุดเสพได้นานขึ้นจนกระทั่งเลิกได้สำเร็จค่ะ
ก่อนใช้ยา จิตแพทย์จะต้องประเมินอาการก่อนจึงจะให้การรักษาด้วยยาที่เหมาะสม และยาควรใช้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากยาส่วนใหญ่มักจะมีผลต่อจิตประสาท และอาจมีผลข้างเคียงจากยาได้ ดังนั้นการใช้ยาอยู่อยู่ภายใต้การดูแลของจิตแพทย์

2.ชื่อยาแต่ละชนิด ช่วยรักษาอาการที่แตกต่างกันไป อันนี้ ไม่สามารถบอกได้ว่ารุ่นพี่หนูใช้ยาอะไรนะคะ

3. วิธีที่เลิกเสพโดยไม่ต้องไปพบหมอ คือ การหักดิบ แต่การหักดิบจะทำให้เกิดอาการถอนยาที่รุนแรงได้ และเมื่อมีอาการถอนยาที่รุนแรง หนูก็ต้องไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษาด้วยยา

ดังนั้นในกรณีนี้แนะนำพบจิตแพทย์ เข้ารับการบำบัดรักษาตามแนวทางที่เหมาะสมดีกว่านะคะ
เบื้องต้นจะมีการประเมินอาการทั้งทางร่างกาย จิตใจ หากพบอาการผิดปกติก็จะให้การรักษาด้วยยา จากนั้นก็วางแผนการบำบัดที่เหมาะสม ในโปรแกรมการบำบัดจะเน้นการเรียนรู้เกี่ยวกับวงจรการเสพติด ตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดพฤติกรรมเสพ การหลีกเลี่ยงจากตัวกระตุ้นต่างๆ รวมทั้งการฝึกทักษะเพื่อป้องกันไม่ให้กลับไปเสพซ้ำอีก ในระหว่างการบำบัดจะมีเจ้าหน้าที่คอยเป็นที่ปรึกษา ให้กำลังใจ ฟื้นฟูสภาพจิตใจและสร้างแรงจูงใจให้หนูเลิกได้สำเร็จนะคะ เมื่อเลิกได้แล้วจะมีการติดตามอาการ ให้กำลังใจตลอดจนครบ 1 ปี เพื่อช่วยให้หนูปรับตัวกับชีวิตใหม่ที่ไม่ต้องพึงสารเสพติดด้วยค่ะ

1.รพ.ที่มีจิตแพทย์ แถวนนทบุรี ได้แก่ รพ.ศีธัญญา รพ.ปากเกร็ด รพ.พระนั่งเกล้า รพ.ชลประทาน รพ.เกษมราษฎร์ ค่ะ
2.หนูติดต่อที่ห้องเวชระเบียน ทำประวัติผู้ป่วยใหม่ แจ้งเจ้าหน้าที่ตรงๆว่าเราต้องการพบจิตแพทย์เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการบำบัดรักษา เจ้าหน้าที่ของ รพ.โดยมากจะมีจรรยาบรรณ รักษาความลับของผู้รับบริการนะคะ ข้อนี้ไม่ต้องกังงวล จากนั้นเจ้าหน้าที่จะแนะนำขั้นตอนการรับบริการถัดไปค่ะ
3.ค่าบำบัดรักษา ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ สิทธิ์การรักษาพยาบาลของหนู ระดับอาการ วิธีการรักษา ในข้อนี้หากเข้ารับการรักษาด้วยยา ค่าบริการครั้งแรกสำหรับ รพ.รัฐ ประมาณ 500 - 1000 บาท ถ้าเป็น รพ.เอกชน ก็เพิ่มเป็นสองเท่าค่ะ
ข้อนี้พี่แนะนำให้หนูเข้ารับการรักษาใน รพ.ตามสิทธิ์การรักษาพยาบาลที่หนูมีอยูนะคะ เพราะจะได้ลดค่าใช้จ่าย อีกทั้งการบำบัดรักษาอาจต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากหนูต้องจ่ายเงินหลายๆครั้งพี่คิดว่าหนูอาจจะเครียดเพิ่มขึ้นเพราะมีปัญหาด้านการเงินตามมาค่ะ
4.จะมีการนัดต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ นัดจนกว่าอาการจะดีขึ้น แต่โดยปกติโปรแกรมการบำบัดจะมีระยะเวลา 4 เดือน ความถี่ในการบำบัดอาจจะ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ ค่ะ
5.กระบวนการบำบัดรักษา เริ่มต้นจากการประเมินอาการทั้งทางร่างกายและจิตใจ หากมีอาการผิดปกติก็จะใช้นาเพื่อบรรเทาอาการเหล่านั้น เมื่อรักษาด้วยยาแล้วจะนัดเข้าโปรแกรมบำบัด ซึ่งมีทั้งแบบรายกลุ่ม และรายบุคคล อันนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของหนู จะมีการตกลงพูดคุยก่อนบำบัดนะคะ