อยากถามคุณหมอค่ะ พอดีวันที่ 31-3 หนูมี พสพ หลายครั้งกับแฟนแต่หนูกินยาคุมแบบรายเดือนและแฟนก็ใช้ถุงยางอนามัยค่ะ แต่คือช่วงที่หนูกินยาคุมยี่ห้อ ยาส 28 เม็ดและเป็นแผงที่ 2 แล้ว หนูกินเลทไปบ้างหลายครั้งแต่ไม่เคยเกิน 1 ชม.เลยไม่เคยลืมกินด้วย ปกติจะกินตอน 22.00 แต่จะมีบ้างที่กินตอน 22.25 22.30 ประมาณนี้อ่ะค่ะประกอบกับหนูเพิ่งมาเช็คว่าวันที่ 2 เป็นวันไข่ตกของหนูทำให้หนูมีความกังวลอยู่บ้าง สิ่งที่หนูอยากจะถามคือ 1. เคยอ่านมาว่า ยาส 28 ฮอร์โมนค่อนข้างต่ำต้องกินให้ตรงเวลาต้องตรงขนาดไหนคะ แล้วแบบที่หนูกินเลทบ้างมันลดประสิทธิภาพการดูดซึมรึเปล่า กลัวแบบมีผลต่อการต่อไข่อ่ะค่ะ 2. ทั้งใส่ถุงยาง+กินยาคุมขนาดนี้แล้วยังเคยมีเคสหลุดมาอีกมั๊ยคะ 3. แฟนหนูเค้าเช็คถุงยางแล้วนะคะไม่มีการรั่วซึมแสดงว่ามันยังป้องกันแน่นอนใช่มั๊ยคะ 4. รู้สึกวิตกเล็กน้อยค่ะเพราะรู้สึกว่าเราเตรียมตัวคุมดีที่สุดแล้วแต่มาพลาดเรื่องวันไข่ตก การคุมแบบหนูมั่นใจได้แค่ไหนคะว่าจะไม่ท้อง เอาจริงนี่ก็เป็นครั้งแรกด้วยถึงจะศึกษามาแล้วแต่ก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดี

สวัสดีค่ะ จากที่เล่ามาโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากค่ะ การทานยาคุมเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด คือควรทานยาเวลาเดิมทุกวัน แต่การทานช้าไป 1 ชั่วโมง ถือว่ายังค่อนข้างปลอดภัย ระดับยายังสูงพอที่จะคุมกำเนิดค่ะ และอีกอย่างมีการใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากๆค่ะ หากถุงไม่แตกไม่รั่ว หรือ หลุดเวลามีเพศสัมพันธ์ และอีกอย่างทานยาคุมต่อเนื่อง มาเป็นแผงที่ 2 แล้ว ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดเมื่อทานต่อเนื่อง 7 วันขึ้นไป หรือทานวันที่ 1-5 ของการเป็นประจำเดือน สามารถคุมกำเนิดได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลไปนะคะ

1. ต้องกินให้ตรงเวลาต้องตรงขนาดไหนคะ แล้วแบบที่หนูกินเลทบ้างมันลดประสิทธิภาพการดูดซึมรึเปล่า?

ที่แนะนำให้รับประทานยาคุมตรงเวลาไม่ใช่เพราะกลัวว่ายาจะดูดซึมลดลงนะคะ แต่เพื่อให้ระดับยาในเลือดค่อนข้างคงที่ เนื่องจากการรับประทานไม่ตรงเวลาอาจทำให้ระดับฮอร์โมนในเลือดแปรปรวน และไม่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการตกไข่ (หากรับประทานยาคุมถูกต้องและตรงเวลา จะยับยั้งไข่ตกได้ใกล้เคียง 100% ค่ะ เมื่อไม่มีไข่ตก ก็ไม่สามารถผสมกับอสุจิได้ จึงไม่เกิดการตั้งครรภ์นั่นเอง)

ผู้ที่ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.3 - 9% นะคะ ตัวเลขจะค่อนไปทางต่ำถ้ารับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอ แต่ถ้ารับประทานคลาดเคลื่อนจากเวลาปกติมากหรือบ่อย ตัวเลขก็จะค่อนไปทางสูงได้ อย่างไรก็ตาม หากไม่ลืมรับประทานยาคุมยาสติดต่อกันตั้งแต่ 2 วันขึ้นไป (หรือมากกว่า 48 ชั่วโมงนั่นเอง) ก็ยังถือว่ายาคุมยาสยังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง

การรับประทานยาคุม ควรรับประทานให้ตรงเวลาเดิมในแต่ละวัน โดยให้คลาดเคลื่อนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่รับประทานยาคุมยาสคลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 - 2 ชั่วโมงจากเวลาปกติ ถือว่าค่อนข้างตรงเวลานะคะ ไม่น่าจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากนัก และถ้าผู้ถามไม่มีปัญหาเลือดกะปริบกะปรอยหลังจากที่รับประทานผิดเวลาดังกล่าว ก็เป็นการยืนยันให้มั่นใจยิ่งขึ้นว่าไม่มีปัญหาที่น่ากังวลค่ะ

2. ทั้งใส่ถุงยาง+กินยาคุมขนาดนี้แล้วยังเคยมีเคสหลุดมาอีกมั๊ยคะ?

ไม่มีข้อมูลดังกล่าว จึงไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ค่ะ ทราบเพียงถ้าใช้ยาคุมถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก เพียง 0.3% ส่วนการใช้ถุงยาง หากใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึม ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 2% ดังนั้น การใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพดี 2 วิธีร่วมกัน น่าจะมีโอกาสเสี่ยงน้อยมาก เพราะไม่น่าจะพลาดพร้อมกันทั้ง 2 วิธี

3. แฟนหนูเค้าเช็คถุงยางแล้วนะคะไม่มีการรั่วซึมแสดงว่ามันยังป้องกันแน่นอนใช่มั๊ยคะ?

ถ้าใช้ยาคุมรายเดือนถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมออยู่แล้ว ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงกว่าถุงยางอยู่แล้วค่ะ จึงไม่ต้องกังวลว่าถุงยางจะรั่วซึมหรือไม่

แต่ถ้าลืมรับประทานยาสติดต่อกันตั้งแต่ 2 วันขึ้นไปแล้วมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุม ก็จะต้องมั่นใจว่าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่มีการรั่วซึม จึงจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดี และมีโอกาสตั้งครรภ์น้อย

4. การคุมแบบหนูมั่นใจได้แค่ไหนคะว่าจะไม่ท้อง?

ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% อยู่แล้วนะคะ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของวิธีคุมกำเนิดที่หนูกับแฟนใช้ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะถ้าใช้ได้ถูกต้องและเหมาะสม จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากไม่ถึง 1% ถ้าไม่ลืมรับประทานยาคุมค่ะ

หรือต่อให้ไม่มีผลคุมกำเนิดจากยา ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึม แม้ความเสี่ยงอาจเพิ่มขึ้นบ้าง (เพราะประสิทธิภาพสูงสุดของถุงยางน้อยกว่าประสิทธิภาพสูงสุดของยาคุมรายเดือน) แต่ก็ยังถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากอยู่ดีค่ะ จึงไม่น่าจะกังวลนะคะ