ช่วงต้นเดือนก่อนผมมีอาการคันคอและไออย่างหนักติดต่อกันประมาณสามสัปดาห์ ซึ่งทำให้ผมเจ็บซี่โครงด้านซ้ายล่าง ตอนแรกก็คิดว่าหลังจากที่หยุดไอไปอาการเจ็บเดี๋ยวก็คงดีขึ้น แต่นี่ก็หายมาประมาณอาทิตย์เศษแล้ว ผมยังคงเจ็บซี่โครงอยู่ และมันเจ็บมากกว่าเดิม อาการอย่างนี้มีสิทธ์เป็นอะไรครับหมอ แล้วผมต้องเริ่มต้นรักษาอย่างไร ค่าใช้จ่ายประมาณกี่บาทครับ

สวัสดีค่ะ อาการไอมีเสมหะ เกิดได้จากสาเหตุหลายอย่าง เช่น
1.การติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ อาจมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก ปวดตามตัวร่วมดัวย , เชื้อไวรัสอื่นๆ เช่น ไข้หวัดธรรมดา หลอดลมอักเสบ การติดเชื้อไวรัส เป็นต้น ซึ่งการติดเชื้อไวรัสต่างๆ ทำให้มีอาการไอนี้ พบได้บ่อยที่สุดค่ะ
2.การ ติดเชื้อ แบคทีเรีย เช่น คออักเสบ หูอักเสบ ต่อมทอลซิลอักเสบ ปอดอักเสบ หลอกลมอักเสบ เป็นต้น
ซึ่ง หลอดลมอักเสบ หรือ ปอดอักเสบ สามารถเกิดได้ทั้งจากไวรัส และ แบคทีเรีย ทำให้มีอาการไอมาก ร่วมกับมีไข้ หรือ เจ็บคอได้ค่ะ
การดูแลเรื่องกายไอนี้ เบื้องต้น แนะนำว่า
1.ดื่มน้ำอุ่นมากๆ วิธีการนี้ ตะล่วยทำให้เสมหะที่เหนียวข้น จางลงและขับออกมาได้ง่ายขึ้นค่ะ
2.ทานยาแก้ไอขับเสมหะได้พอสมควรค่ะ
3.หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปตรวจเพิ่มเติมที่ รพ อาจมีการติดเชื้อซ้ำซ้อน ต้องเอกเรย์ หรือ ต้องให้ยาฆ่าเชื้อค่ะ โดยทั่วไป หากเกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนไข้ อาจมีอาการไอได้นาน (post viral bronchitis) โดยจะไอได้อีก 2-3 สัปดาห์ค่ะ การไอมากๆ อาจทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกได้ เนื่องจากมีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหน้าอกค่ะ อาจทานยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาพาราเซตามอลข่วยได้ค่ะ

การรักษาโรคตามสิทธิ์ เช่น สิทธิ์ 30 บาท สิทธิ์ ประกันสังคม สิทธิ์เบิกตรงตามรพ ต้นสังกัด สามารถใช้บริการฟรีที่รพ ต้นสังกัดค่ะ

สวัสดีค่ะ อาการไอมีเสมหะ เกิดได้จากสาเหตุหลายอย่าง เช่น
1.การติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ อาจมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก ปวดตามตัวร่วมดัวย , เชื้อไวรัสอื่นๆ เช่น ไข้หวัดธรรมดา หลอดลมอักเสบ การติดเชื้อไวรัส เป็นต้น ซึ่งการติดเชื้อไวรัสต่างๆ ทำให้มีอาการไอนี้ พบได้บ่อยที่สุดค่ะ
2.การ ติดเชื้อ แบคทีเรีย เช่น คออักเสบ หูอักเสบ ต่อมทอลซิลอักเสบ ปอดอักเสบ หลอกลมอักเสบ เป็นต้น
ซึ่ง หลอดลมอักเสบ หรือ ปอดอักเสบ สามารถเกิดได้ทั้งจากไวรัส และ แบคทีเรีย ทำให้มีอาการไอมาก ร่วมกับมีไข้ หรือ เจ็บคอได้ค่ะ
การดูแลเรื่องกายไอนี้ เบื้องต้น แนะนำว่า
1.ดื่มน้ำอุ่นมากๆ วิธีการนี้ ตะล่วยทำให้เสมหะที่เหนียวข้น จางลงและขับออกมาได้ง่ายขึ้นค่ะ
2.ทานยาแก้ไอขับเสมหะได้พอสมควรค่ะ
3.หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปตรวจเพิ่มเติมที่ รพ อาจมีการติดเชื้อซ้ำซ้อน ต้องเอกเรย์ หรือ ต้องให้ยาฆ่าเชื้อค่ะ โดยทั่วไป หากเกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนไข้ อาจมีอาการไอได้นาน (post viral bronchitis) โดยจะไอได้อีก 2-3 สัปดาห์ค่ะ การไอมากๆ อาจทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกได้ เนื่องจากมีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหน้าอกค่ะ อาจทานยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาพาราเซตามอลข่วยได้ค่ะ

การรักษาโรคตามสิทธิ์ เช่น สิทธิ์ 30 บาท สิทธิ์ ประกันสังคม สิทธิ์เบิกตรงตามรพ ต้นสังกัด สามารถใช้บริการฟรีที่รพ ต้นสังกัดค่ะ

สวัสดีค่ะ อาการไอมีเสมหะ เกิดได้จากสาเหตุหลายอย่าง เช่น
1.การติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ อาจมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก ปวดตามตัวร่วมดัวย , เชื้อไวรัสอื่นๆ เช่น ไข้หวัดธรรมดา หลอดลมอักเสบ การติดเชื้อไวรัส เป็นต้น ซึ่งการติดเชื้อไวรัสต่างๆ ทำให้มีอาการไอนี้ พบได้บ่อยที่สุดค่ะ
2.การ ติดเชื้อ แบคทีเรีย เช่น คออักเสบ หูอักเสบ ต่อมทอลซิลอักเสบ ปอดอักเสบ หลอกลมอักเสบ เป็นต้น
ซึ่ง หลอดลมอักเสบ หรือ ปอดอักเสบ สามารถเกิดได้ทั้งจากไวรัส และ แบคทีเรีย ทำให้มีอาการไอมาก ร่วมกับมีไข้ หรือ เจ็บคอได้ค่ะ
การดูแลเรื่องกายไอนี้ เบื้องต้น แนะนำว่า
1.ดื่มน้ำอุ่นมากๆ วิธีการนี้ ตะล่วยทำให้เสมหะที่เหนียวข้น จางลงและขับออกมาได้ง่ายขึ้นค่ะ
2.ทานยาแก้ไอขับเสมหะได้พอสมควรค่ะ
3.หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปตรวจเพิ่มเติมที่ รพ อาจมีการติดเชื้อซ้ำซ้อน ต้องเอกเรย์ หรือ ต้องให้ยาฆ่าเชื้อค่ะ โดยทั่วไป หากเกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนไข้ อาจมีอาการไอได้นาน (post viral bronchitis) โดยจะไอได้อีก 2-3 สัปดาห์ค่ะ การไอมากๆ อาจทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกได้ เนื่องจากมีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหน้าอกค่ะ อาจทานยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาพาราเซตามอลข่วยได้ค่ะ

การรักษาโรคตามสิทธิ์ เช่น สิทธิ์ 30 บาท สิทธิ์ ประกันสังคม สิทธิ์เบิกตรงตามรพ ต้นสังกัด สามารถใช้บริการฟรีที่รพ ต้นสังกัดค่ะ