August 18, 2019 15:30
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ยาคุมแบบรายเดือน
การรับประทาน ให้เริ่มรับประทาน ช่วงเมนส์มาวันที่ 2 ถึง 5
จากนั้นรับประทานวันละ 1 เม็ด
เพื่อระดับฮอร์โมนที่สม่ำเสมอ ควรรับประทานเวลาใกล้เคียงกันทุกวัน
รับประทานจากเม็ดแรก ไป ตามลูกศร
อีกวิธีเริ่ม ถ้ามั่นใจว่า ไม่ตั้งครรภ์สามารถเริ่มยาคุมเลยวันใดก็ได้ แต่ต้องคุมกำเนิดวิธีอื่น เช่น ใช้ถุงยางอนามัย ร่วมด้วย ใน 7 วันแรก ที่เริ่มทานยาค่ะ หลังจากนั้น ยาคุมมีประสิทธิภาพแล้วค่ะ ป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 95% ถ้าไม่ลืมทานค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ถ้ามีไม่บ่อย ควรเลิกกินยาตอนไหนค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การใช้ยาคุมแผงแรก จะแนะนำให้รับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้ไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่ ซึ่งหากใช้ทันช่วงเวลาดังกล่าวก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทาน
แต่ถ้าผู้ถามยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลยก็ถือว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์อยู่นะคะ ดังนั้น หากเริ่มใช้ยาคุมรายเดือนแผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็ยังสามารถใช้ได้ แต่จะต้องรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ค่ะ ในช่วงที่ยังไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาจึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนนะคะ
การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% หรือค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ถ้ารับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ
และเพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแปรปรวนก็ควรจะใช้ต่อเนื่องกันไปจนหมดแผงนะคะ ถ้ายาคุมที่ใช้เป็นแบบ 21 เม็ด หมดแล้วก็จะต้องเว้นว่าง 7 วันก่อนต่อยาคุมแผงใหม่ ซึ่งประจำเดือนจะมาในช่วงที่เว้นว่าง โดยมักจะมาหลังใช้ยาหมดไปแล้ว 2 - 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย
แต่ถ้าผู้ถามใช้ยาคุมแบบ 28 เม็ด เมื่อหมดแผงแล้วจะต้องต่อแผงใหม่ในวันถัดมา ไม่ต้องเว้นว่างเพิ่มอีก ถ้ายาคุมที่ใช้เป็นชนิดฮอร์โมนรวม ประจำเดือนก็จะมาในช่วงที่รับประทาน "เม็ดแป้ง" โดยมักจะมาหลังใช้ "เม็ดยาฮอร์โมน" หมดไปแล้ว 2 - 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย
เมื่อมีประจำเดือนมาแล้วก็ถือว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ ถ้ายังต้องการคุมกำเนิดต่อ (เช่น คาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์อีกเรื่อย ๆ) ครบกำหนดต่อยาคุมแผงใหม่ก็ต่อยาคุมตามกำหนดเพื่อให้มีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่อง
แต่ถ้าไม่ต้องการจะคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ต่อแล้ว ก็ไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมแผงใหม่ต่อตามกำหนดแล้วค่ะ
..
..
..
หรือถ้าผู้ถามคาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อยครั้ง และไม่อยากจะรับประทานยาคุมรายเดือนซึ่งต้องใช้ต่อเนื่องกันทั้งแผง ก็สามารถคุมกำเนิดด้วยการใช้ถุงยางอนามัยได้นะคะ เพราะถ้าใช้ถูกต้องและไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล และยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วยค่ะ
..
..
..
อย่างไรก็ตาม ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% นะคะ การคุมกำเนิดด้วยวิธีต่าง ๆ ทำได้เพียงลดความเสี่ยงให้น้อยลงเท่านั้น ซึ่งจะลดได้มากหรือน้อยเพียงไรก็ขึ้นกับประสิทธิภาพของแต่ละวิธี และขึ้นกับการใช้ว่าเหมาะสมหรือไม่
ดังนั้น หากผู้ถามรับความเสี่ยงไม่ได้เลย แนะนำให้รอจนถึงวันที่พร้อม แล้วจึงค่อยมีเพศสัมพันธ์ดีกว่านะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณมากนะคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
สำหรับยาคุมโดยทั่วไปนั้นถ้าหากเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนยาคุมก็จะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่รับประทานยาคุมครับ
แต่ถ้าหากไม่ได้รับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะขึ้นอยู่กับว่ารักยาคุมชนิดใดอยู่ครับ
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันให้ได้อย่างน้อย 7 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันให้ได้อย่างน้อย 2 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้
และเมื่อยาคุมออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างเต็มที่แล้วก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาครับ
_________________________
สำหรับการหยุดรับประทานยาคุมนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่คิดว่าจะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แล้ว ต้องการเปลี่ยนไปคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น หรือต้องการปล่อยมีบุตร ก็สามารถหยุดรับประทานยาคุมได้ทันทีที่รับประทานยาคุมหมดแผงครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ถ้ามีเพศสัมพันธ์ก่อนประจำเดือนมา กินก่อนจะมี2-5 วันใช่ไหมค่ะในขณะที่เรายังไม่มีประจำเดือน
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากต้องการที่จะเริ่มรับประทานยาคุมก่อนที่ประจำเดือนจะมาก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันให้ได้อย่างน้อย 7 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มออกฤทธิ์ป้องกันได้อย่างเต็มที่ครับ และถ้าหากต้องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนที่จะรับประทานยาคุมครบ 7 วัน ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าจะเริ่มใช้ยาคุมแผงแรกโดยไม่รอให้ประจำเดือนมาก่อน...
1. จะต้องมั่นใจว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์อยู่ เช่น นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมาในรอบล่าสุด มาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีเพศสัมพันธ์เลย เพราะถ้ามีการตั้งครรภ์ไปก่อนที่จะมีผลคุมกำเนิดจากยา แม้จะใช้ยาคุมรายเดือนต่อ แต่การตั้งครรภ์นั้นก็จะคงอยู่เหมือนเดิมค่ะ
2. สำหรับยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม (ยาคุมสูตรปกติ ที่ไม่ใช่ยาคุมสำหรับหญิงให้นมบุตร) ถ้าใช้ไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทาน "เม็ดยาฮอร์โมน" ติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ค่ะ ในช่วงที่ยังไม่มีผลคุมกำเนิดจากยา จึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วยนะคะ
3. ในระหว่างที่ใช้ "เม็ดยาฮอร์โมน" ของยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม จะไม่มีประจำเดือนค่ะ ดังนั้น หากเริ่มใช้ก่อนที่ประจำเดือนจะมา อาจส่งผลให้ประจำเดือนรอบนี้เลื่อนช้าออกไปตามยาคุมที่ใช้นะคะ
..
..
..
ดังนั้น ในกรณีนี้ การใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แล้วรอให้ประจำเดือนมาจึงค่อยใช้ยาคุมรายเดือน น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
กำลังจะมีเพศสัมพัธุ์กับแฟนครั้งแรกควรกินยาคุมก่อนมีกี่วันค่ะ แล้วควรเลิกกันตอนไหน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)