September 23, 2018 00:50
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ ก่อนจะรักษาควรได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนค่ะ จึงจะเลือกการรักษาที่เหมาะสมได้ การเกิดตุ่มหรือผื่นที่เกิดบริเวณอวัยวะเพศเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
- เริม มักเป็นตุ่มน้ำใสหลาย ๆ ตุ่ม ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดแสบร่วมด้วย
- แผลริมแข็ง หรือ ซิฟิลิส
- หนองใน
- หูดหงอนไก่
- การติดเชื้อในช่องคลอด เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย โปรโตซัว เป็นต้นค่ะ
ฯลฯ
แต่ละโรคก็มีการรักษาต่างๆ กันไป บางโรคต้องรักษาคู่นอนด้วย หากเป็นจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ควรสวมถุงยางอนามัย หากเกิดจากการติดเชื้อก็ควรรักษาความสะอาดและสุขอนามัยเบื้องต้น ที่สำคัญไม่ควรใช้มือเกาเพราะมือของเราสกปรกอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนได้ ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อรับการซักถามประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการ หากมีความจำเป็นค่ะเพื่อช่วยในการวินิจฉัยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คือมีอาการคันบริเวณอวัยวะคะเจ็บมากโดนไม่ได้เลย ภายในสีแดงมากมีเม็ดขาวๆเล็กๆรอบๆอวัยวะมีอะไรไม่รูู้ขาวๆเกาะเต็มไม่รู้ว่าเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันบ่อยไหม บวกทั้งจังหวะที่ประจำเดือนมาด้วยคะเลยมีอาการเจ็บจากผ้าอนามัยเข้ามาด้วยคือเจ็บคั้งแต่อวัยวะจนถึงตูดเลย เคยมีอาการคันตกขาวอยากเดียวใช้ยาสอดไปก็หาย แต่รอบนี้เป็นมากกว่าคันนะคะ เลยซื้อยามากินเพราะเมนส์มาไม่กล้าสอด แต่ก็ไม่มีว่าจะดีขึ้น แถมปกติแล้วไม่ค่อยมีกลิ่นเลย แต่ตอนนี้กลิ่นแรงมากคะ เครียดมาก
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)