June 30, 2019 07:51
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
1. ถ้าหากใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกันการตั้งครรภ์เพียงอย่างเดียว และสามารถใช้ได้อย่างถูกต้อง โอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์จะมีเพียง 2% เท่านั้นครับ
2. การรับประทานยาคุมที่จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้นั้นจะต้องเริ่มรับประทานก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์โดยควรเริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนเพื่อให้ยาคุมออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกครับ หรือถ้ารับประทานยาคุมช้ากว่า 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันนานอย่างน้อย 7 วันก่อนก่อนยาคุมจึงจะเริ่มออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้
3. ถ้าใช้วิธีการคุมกำเนิดโดยการรับประทานยาคุมก็สามารถรับประทานไปได้ตลอดจนกว่าจะต้องการปล่อยมีบุตรหรือเปลี่ยนไปคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นครับ
4. เมื่อไหร่ที่ต้องการปล่อยมีบุตร ต้องการเปลี่ยนไปคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นหรือคาดว่าจะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แล้วก็สามารถหยุดรับประทานยาคุมได้ครับ
5. สามารถรับประทานยาคุมร่วมกับวิตามินได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะ มีเรื่องอยากปรึกษาคุณหมอ - ถ้าเรายังไม่เริ่มทานยาคุมกำเนิด แต่เรามีเพศสัมพันธ์ป้องกันโดยการใช้ถุงยางอนามัย จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการท้องได้หรือไม่คะ? ควรที่จะเริ่มทานยาคุมก่อนมีเพศสัมพันธ์หรือไม่คะ? - การเริ่มทานยาคุมกำเนิดทานต่อเนื่องได้นานแค่ไหนหรอคะ? ทานแล้วสามารถหยุดทานได้ยังไง? - ยาคุมกำเนิดทานแล้วสามารถทานร่วมกับวิตามินอย่างหรือได้หรือไม่?
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)