July 12, 2018 21:31
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. การใช้วิธี "นับวันปลอดภัย" หรือ "หน้า 7 - หลัง 7" มีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้สูง 24% ค่ะ
2. การหลั่งนอก ก็เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีโอกาสผิดพลาดได้ง่ายเช่นกัน จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูง 22%
3. การใช้ยาคุมฉุกเฉิน ไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกติ แม้จะรับประทานเร็วแค่ไหนก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% และยิ่งรับประทานช้า โอกาสตั้งครรภ์ยิ่งสูงมากขึ้น
จะเห็นได้ว่า วิธีคุมกำเนิดที่ผู้ถามใช้ ล้วนแต่ไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพสูงค่ะ เมื่อเลือกใช้วิธีดังกล่าวจึงต้องรับความเสี่ยงให้ได้ว่าจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากกว่าผู้ที่คุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐาน อย่าง การใช้ถุงยางอนามัย (ถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึม จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 2%), การใช้ยาคุมรายเดือน (ถ้าใช้ถูกต้องและตรงเวลา มีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3%) หรือการใช้ยาฝังคุมกำเนิด (มีโอกาสตั้งครรภ์ 0.05%)
และเนื่องจากยาคุมฉุกเฉินไม่มีผลคุมกำเนิดไปข้างหน้า ดังนั้น เมื่อมีเพศสัมพันธ์ที่ป้องกันด้วยวิธีหลั่งนอกซ้ำอีกในภายหลัง แนะนำให้รีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วค่ะ ไม่ว่าจะใช้ยี่ห้อใด หรือเป็นแบบที่มีแผงละ 1 เม็ดหรือแบบที่มีแผงละ 2 เม็ดก็ตาม ให้รับประทานหมดแผงในครั้งเดียวค่ะ แล้วรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามปกติหรือไม่
การใช้วิธีนี้ มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% หรืออาจสูงกว่านะคะ เนื่องจากมีงานวิจัยที่ชี้ว่าการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน หรือป้องกันด้วยวิธีที่ไม่มีประสิทธิภาพสูงซ้ำในรอบเดือนเดียวกันกับที่รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ให้มากขึ้นอีกหลายเท่า
แต่การใช้ยาคุมฉุกเฉินในกรณีนี้ อาจทำให้ประจำเดือนเลื่อนออกไปได้เล็กน้อย ดังนั้น ให้รอดูอีกสักระยะหนึ่งว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ หากไม่มีประจำเดือนมา แนะนำให้ตรวจสอบการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
..
..
..
ส่วนการใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง ซึ่งใช้เพื่อคุมกำเนิดฉุกเฉินได้ และมีประสิทธิภาพสูงมากนั้น ไม่แนะนำให้ใช้ในกรณีนี้ค่ะ เพราะถือว่ามีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ก่อนการใส่ห่วงอนามัยจากการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งเกิน 120 ชั่วโมงมาแล้ว จึงใช้ห่วงอนามัยเพื่อป้องกันฉุกเฉินไม่ได้แล้วค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
สรุปสั้น ๆ ตามนี้นะคะ
1. ให้รีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วค่ะ โดยรับประแทนแบบหมดแผงในครั้งเดียว ไม่ต้องแยกเป็น 2 ครั้ง
2. งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนจนกว่าจะมีประจำเดือนมา หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
3. ประจำเดือนที่ยังไม่มา อาจเลื่อนจากการใช้ยาคุมฉุกเฉินก็ได้ค่ะ และเมื่อรับประทานยาคุมฉุกเฉินซ้ำอีกตามข้อ 1 ประจำเดือนก็อาจเลื่อนต่อไปอีกเล็กน้อย แต่ควรใช้นะคะ เพื่อลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์
4. ถ้ารอนานแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน
5. ต่อไป เพื่อป้องกันการคุมกำเนิดล้มเหลวและเกิดปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อม ควรใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงค่ะ ไม่ควรใช้วิธีนับวันปลอดภัย, การหลั่งนอก หรือการใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ หรือแทนวิธีคุมกำเนิดปกตินะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คือหนูมีอะไรกับแฟนวันที่5ก.ค.ค่ะ แต่พลาดหลั่งใน ตอนห้าทุ่มค่ะ (วันที่5เป็นวันที่คาดว่าปจด.จะมาค่ะ แต่ยังไม่มา) พอตอนเช้าแปดโมง หนูก็กินยาคุมฉุกเฉิน วันที่8-9 ก็มีอะใรกัน แต่หลั่งนอกค่ะ ตอนนี้วันที่12แล้ว ปจด.ยังไม่มาเลยค่ะ ทำไงดีค่ะ(ปจด.มาล่าสุดวันที่11มิ.ย)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)