May 05, 2019 21:54
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมชนิด 28 เม็ดนั้นจะมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ต่อเมื่อ
- ถ้ารับประทานยาภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาคุมจะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีหลังรับประทานยา
- ถ้ารับประทานยาคุมช้ากว่า 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกัน 7 วันก่อน ยาคุมจึงจะเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้
จากในกรณีนี้จึงยังคงมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้อยู่พอสมควรเนื่องจากยาคุมจะยังไม่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ในตอนนี้ครับ โดยการมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% เนื่องจากในขณะที่มีการสอดใส่นั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ครับ
แต่เนื่องจากในตอนนี้ได้รับประทานยาคุมมาหลายวันแล้วหมอก็แนะนำให้รับประทานยาคุมต่อเนื่องไปก่อนเพื่อไม่ให้ระดับฮอร์โมนมีความแปรปรวนครับ
แต่ถ้าหากรับประทานยาไปจนหมดแผงแล้วไม่มีประจำเดือนมา หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ในตอนเช้าของวันที่จะเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ก่อน ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็สามารถรับประทานยาคุมต่อไปก่อนได้ตามปกติครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ยาคุมรายเดือนไม่มีผลคุมกำเนิดฉุกเฉิน การใช้ในกรณีนี้ของผู้ถามจึงไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้ถามกังวลค่ะ
โดยทั่วไปถือว่าการมีเพศสัมพันธ์ในช่วง "หน้า 7 - หลัง 7" มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 24% นะคะ ส่วนการหลั่งนอก มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% ค่ะ แม้จะถือว่าเสี่ยงน้อยกว่าการไม่ป้องกันใด ๆ เลยที่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 85% แต่ก็ถือว่าเสี่ยงสูงกว่าการคุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐานหลายเท่า
และไม่สามารถจะป้องกันฉุกเฉินได้ทันแล้ว เนื่องจากเกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วค่ะ
2. เนื่องจากผู้ถามรับประทานยาคุมต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว หากหยุดใช้ตอนนี้แม้ว่าสามารถทำได้หากต้องการ แต่ก็อาจทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนซึ่งจะยิ่งทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ค่ะ
ดังนั้น หากไม่ต้องการให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนจนคาดการณ์ได้ยาก และหวังผลคุมกำเนิดไปข้างหน้าด้วย ก็สามารถใช้ต่อได้นะคะ ซึ่งหากยาคุมที่ผู้ถามใช้นั้นเป็น "ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม" หากไม่ตั้งครรภ์ ก็ควรจะมีประจำเดือนมาในช่วงที่รับประทาน "เม็ดแป้ง" ของแผงค่ะ โดยประจำเดือนมักจะมาหลังใช้ "เม็ดยาฮอร์โมน" หมดไปแล้ว 2 - 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย
และเมื่อรับประทาน "ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม" ติดต่อกันครบ 7 วัน ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดจากยาได้ ในตอนนั้นก็มีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกตินะคะ (แต่ไม่สามารถป้องกันย้อนหลังได้อยู่ดีค่ะ นั่นคือ หากตั้งครรภ์ไปแล้ว ต่อให้รับประทานต่อก็ยังจะตั้งครรภ์อยู่เหมือนเดิม)
หากมีประจำเดือนมาในช่วงที่รับประทานเม็ดแป้งของแผง ถือว่าไม่มีการตั้งครรภ์แล้วนะคะ หากต้องการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ต่อไป เมื่อใช้หมดแผงแล้วก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ในวันถัดมาได้เลยเพื่อให้มีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่อง
หรือหากต้องการหยุดใช้ ก็ไม่ต้องรับประทานเม็ดแป้งที่เหลือต่อ และไม่ต้องต่อยาคุมแผงใหม่แล้วค่ะ
แต่ถ้าใช้ไปจนหมดแผงแล้วแต่ไม่มีประจำเดือนมา แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันถัดมาด้วยนะคะ หากผลตรวจออกมาเป็นไม่ตั้งครรภ์ ก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนดได้ถ้าต้องการค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ประจำเดือนมาวันที่ 23-26เมษา มีเพศสัมพันธ์วันที่29( โดยการหลั่งนอก)หลังจากนั้นได้ทานยาคุมกำเนิดแบบ28 ทันที แล้วมาศึกษาข้อมูลว่าจริงๆควรทานตอนประจำเดือนมา แบบนี้เรามีสิทธิตั้งครรไหมคะคุณหมอ แล้วเราควรทานยาต่อไปไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)