October 04, 2018 08:59
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ การทารยาคุมฉุกเฉิน ระหว่างทานอาหาร ไม่มีผลต่อประสิทธิภทพของยาค่ะ สามารถรับประทานได้ โดยหากรับประทานภายใน 24 ชม แรกหลังมีเพศสัมพันธ์ จะเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% -90% แต่ถ้ากินภายใน 72 ชม ประสิทธิภาพได้ประมาณ 75% ค่ะ และช้าสุดที่ 120 ชม ประสิทธิภาพ ของการป้องกันการตั้งครรภ์ยังพอมีอยู่ แต่ลดลงไปมากค่ะ
หรือถ้าต้องการประสิทธิภาพการคุมกำเนิดมากขึ้น จะเปลี่ยนไปคุมกำเนิดโดยใช้ ห่วงอนามัยชนิดเคลือบสารทองแดงก็ได้ค่ะ ประสิทธิภาพจะสูงกว่ายาคุมกำเนิดในช่วง 72-120 ชมค่ะ (สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 0-120 ชมได้ดี และมีประสิทธิภาพประมาณ 99%) ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นสามารถรับประทานกับข้าวได้โดยไม่มีผลรบกวนประสิทธิภาพของยาครับ แต่ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเองก็ไม่ได้เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพมากนัก คือ ยังมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้อยประมาณ 15-25%
ดังนั้นหลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินแล้วก็ควรรอสังเกตประจำเดือนว่าประจำเดือนจะมาตามปกติหรือไม่ ถ้าหากรอบเดือนนี้ประจำเดือนขาดหายไปนานก็ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูด้วยครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ หนูเพิ่งมีอะไรกับเเฟนตอนช่วงตี3 ตอนเสร็จกิจเเฟนหนูเผลอหลั่งในไปนิดนึงแล้วออกมาปล่อยข้างนอกต่อ(ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย) หนูเพิ่งกินยาคุมฉุกเฉินไปตอน08.30 แต่คือกินยาระหว่างที่กินข้าวด้วยจะมีผลอะไรมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)