October 29, 2019 00:29
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
จากที่อ่าน ก็ลักษณะเหมือนการติดเชื้อรา ในช่องคลอดจริงๆค่ะ ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ ก็เป็นปัจจัยกระตุ้นอย่างหนึ่ง เพราะทำให้สมดุลย์ในช่องคลอดเปลี่ยนแปลงไป
โดยทั่วไป การรักษา รักษาโดยใช้ยาฆ่าเชื้อราค่ะ
อย่างไรก็ตาม มีประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของคนไข้ ที่แม้จะรักษาแล้ว ก็มีการติดเชื้อราซ้ำๆบ่อยๆ
ถ้ามีการติดเชื้อราในช่องคลอด บ่อยกว่า 4 ครั้งใน 1 ปี แพทย์จะมียาฆ่าเชื้อรารับประทานต่อเนื่อง เพื่อให้ป้องกันไว้ค่ะ
ดังนั้น จึงแนะนำให้ไปปรึกษาสูตินรีแพทย์อีกทีนะคะ
นอกจากนี้ ก็ต้องดูว่า เรามีความเสี่ยงอะไร ที่จะปรับเปลี่ยนได้ เพื่อไม่ให้เป็นซ้ำมั้ย เช่น เรื่องความอับชื้น การทานยาฆ่าเชื้อบ่อยๆ มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ ฯลฯ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีค่ะ คุณหมอ เรามีปัญหาเรื่องน้องจิมิค่ะ ทุกครั้งที่เรามีเพศสัมพันธ์กับแฟน ไม่ว่าจะแบบใส่ถุงหรือไม่ใส่ หลังมีอะไรกันเสร็จเราจะคันน้องจิมิทุกครั้ง อาการจะเป็นดังต่อไปนี้ค่ะ ตกขาวตอนแรกจะเหมือนข้าวเปียกแฉะๆ ผ่านไป 1 วันตกขาวจะมีน้ำใสๆเหนียวๆปนสีขุ่นๆออกมาเยอะ น้ำใสๆอันนี้พอออกมา ทำให้จิมิคันและบวมแดงค่ะ เรามีอาการทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มาเป็นเวลา 1 ปีแล้วค่ะ เราไปหาหมอ หมอก็บอกว่าเป็นเชื้อราในช่องคลอดทุกครั้ง แต่ส่วนตัวเรารู้สึกว่ามันไม่ปกติ เราเหนื่อยมาก ไม่อยากเป็นแล้ว เราควรทำยังไงคะ เพิ่มเติม - แฟนเราไม่มีอาการอะไรเลย ปกติทุกอย่าง น้องจู๋ก็ปกติ - เราดื่มน้ำน้อย พยายามดื่มเยอะแต่ก็ไม่ช่วย - เราเป็นเชื้อราในช่องคลอดครั้งแรกตอน 17 และไม่เป็นอีกเลย จนเรา 23-24 เพิ่งกลับมาเป็น แล้วก็ไม่หายสักที - ก่อนอาการจะเริ่มกลับมาเรากินปลาดิบบ่อยมาก ตอนนี้งดแล้วค่ะ - เราคิดว่าแพ้สารล่อลื่นจากถุงยางรึเปล่า แต่พอไม่ใส่ก็ยังเป็น - บางครั้งรู้สึกเหมือนอะไรสักอย่างตรงท้องน้อยด้านขวามันตันๆ ไม่มีอาการปวด แค่รู้สึกเหมือนตันๆ - ประจำเดือนมาปกติค่ะ เราไม่กินยาคุม รบกวนด้วยนะคะ เป็นปัญหาชีวิตคู่มาก :(
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)