October 24, 2018 19:21
ตอบโดย
สุพิชชา แสงทองพราว (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาการปวดท้องน้อยดเกิดได้หลายสาเหตุนะคะ กรณีที่พบความผิดปกติของการปัสสาวะ หรือปวดตอนปัสสาวะ จะคิดถึงโรคการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะมากที่สุดค่ะ แต่เนื่องจากมีการรับประทานยาฆ่าเชื้อไปแล้ว จึงอาจทำให้ตรวจแล้วไม่พบได้
- โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ปัจจัยเสี่ยงเช่น อั้นปัสสาวะ ดื่มน้ำน้อย สามารถมีอาการปวดท้องน้อยได้ มักพบร่วมกับอาการปัสสาวะแสบขัด หรือปัสสาวะขุ่น พบได้ว่ามีปัสสาวะบ่อย และเจ็บบริเวณท้องน้อย หรือท่อปัสสาวะเมื่อตอนปัสสาวะจะสุด วินิจฉัยได้จากอาการและ การตรวจปัสสาวะ รักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ
โรคอื่นๆที่พบว่ามีอาการปวดท้องน้อยได้ เช่น
- อุ้งเชิงกรานอักเสบ คือการติดเชื้อแบคทีเรียนบริเวณอุ้งเชิงกราน ได้แก่ มดลูก ปีกมดลูก อาจพบมีไข้ร่วมด้วย หรือมีตกขาวผิดปกติออกมา ได้ค่ะ การวินิจฉัยต้องใช้การตรวจภายใน
- ลำไส้อักเสบ มักพบมีอาการปวดท้อง ลักษณะมักจะปวดบีบๆ เป็นพักๆ อาจมีท้องเสียร่วมด้วยได้ แต่อาการมักหายไปประมาณ 1-2 วัน
- กล้ามเนื้ออักเสบ อาจเกิดจากการยกของหนัก หรือนั่งนาน ทำให้มีการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณท้องได้
แนะนำว่า หากทานยาแล้วไม่ดีขึ้น อาจจะต้องตรวจภายใน เพื่อหาสาเหตุอื่นๆเพิ่มเติมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ดิฉันอายุ 21 ปี วันนึงตอนเย็นดิฉันปวดหน่วงๆท้องน้อยฉันจึงกินยาฆ่าเชื้อในกระเพาะปัสสาวะกับยาแก้ปวดลดอักเสบพอตอนเช้าดิฉันก็กินอีกพอตอนเที่ยงฉันไปโรงพยาบาลคุณหมอให้ฉันไปตรวจปัสสาวะหมอบอกว่าปัสสาวะไม่ติดเชื้อแต่หมอบอกว่าดิฉันเป็นเชื้อราในช่องคลอดดิฉันไม่มีอาการคัน ไม่มีตกขาว ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ หรือ แต่งงานมาก่อนแค่ปวดหน่วงๆตรงท้องน้อยเวลาฉี่จะปวดเท่านี้เองค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)