หมอคะพอดีว่าหนูมีเซ็กกับแฟนแต่ใส่ถุงยาง แต่ถุงยางแตกโดยที่ไม่รู้ตัวมารู้อีกทีคือน้ำอสุจิหลั่งข้างในช่องคลอดแล้ว ระหว่างยาคุมฉุกเฉินกับยาคุมปกติอันไหนเสี่ยงต่อการท้องมากกว่ากันคะ ตอนนี้รับประทานยาคุมปกติไม่ได้กินยาคุมฉุกเฉินเพราะเค้าบอกว่าเสี่ยงมากกว่ายาคุมปกติอาจทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนได้ วันนี้เป็นวันที่สองของการกินยาคุมปกติ พอดีว่าหนูยังเรียนอยู่ยังไม่พร้อมที่จะมีลูกทั้งคู่ ควรทำอย่างไรคะ

ถ้าเดิม ไม่ได้กินยาคุมอยู่ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์หลั่งใน หลังหลุดหลั่งในไปเเล้ว มากินยาคุมเเผงรายเดือนทีหลัง ไม่ทันครับ
ต้องกินยาคุมฉุกเฉินครับ

รับประทานให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน (ห้ามเกิน120ชม. หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ)
โดยให้รับประทานยาคุมฉุกเฉิน ชนิด 2เม็ด เช่น Postinor หรือ Madonna ได้สองวิธี
1.รับประทานทันที 2 เม็ด
2.รับประทาน 1 เม็ดทันที เเละรับประทาน เม็ดต่อไป ในอีก 12 ชม.
สองวิธีประสิทธิภาพไม่เเตกต่างกัน (หรือชนิด 1 เม็ด เช่น Maple forte ก็กินเม็ดเดียวไปเลยครับ)
วิธีเเรกสะดวก แต่อาจเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้มากกว่า
วิธีที่สอง อาการคลื่นไส้อาเจียนน้อย เเต่ต้องดูเวลาดีๆ ครับ
หากอาเจียนภายใน 2 ชม.หลังกินยา ต้องกินใหม่นะครับ เพราะยายังไม่ได้ดูดซึม

ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน เช่น คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านมได้ครับ และหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ประมาณภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งมักไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ ไม่ได้บอกว่าท้องหรือไม่ท้องครับ)
ส่วนประจำเดือนจริงๆจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์ ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา ก็มีโอกาสหลุดท้องครับ ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ

หากต้องการรีบตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ระหว่างรอประจำเดือนจริงๆมา ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนครับ
ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องคือประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ

เพื่อความชัดเจน ขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ
1. ใช้ยาคุมยี่ห้ออะไรคะ
2. เริ่มรับประทานแผงนี้ตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ และรับประทานในขนาดใดคะ
3. ประจำเดือนรอบล่าสุดมาตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่คะ
4. นับจากวันแรกที่มีประจำเดือนรอบล่าสุด มาจนถึงปัจจุบัน มีเพศสัมพันธ์ในวันที่เท่าไหร่บ้าง และป้องกันอย่างไร

สวัสดีครับ
การทานยาคุมแบบรายเดือนภายหลังการมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วไม่ได้ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ครับ ต้องเป็นยาคุมฉุกเฉินเท่านั้นซึ่งควรรับประทานโดยเร็วที่สุดและภายใน 120 ชม.หลังการมีเพศสัมพันธ์ครับ ซึ่งจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 80% โดยแน่นอนครับว่ายาคุมแบบฉุกเฉินนั้นมีผลข้างเคียงมากกว่ายาคุมแบบรายเดือนแต่หากไม่ต้องการตั้งครรภ์แล้วการทานยาคุมแบบฉุกเฉินจึงมีประโยชน์มากกว่าโทษที่จะได้รับครับ ดังนั้นแนะนำให้ทานยาคุมฉุกเฉินครับ

สวัสดีครับ
การที่ถุงยางอนามัยมีการฉีกขาดนั้นหมอแนะนำให้หายาคุมฉุกเฉินมารับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก่อนเพื่อลดโอกาสตั้งครรภ์ลว 75-85% ครับ

ส่วนยาคุมแบบรายเดือนนั้นจะไม่มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ในกรณีนี้ ยกเว้นแต่ว่าถ้าก่อนมีเพศสัมพันธ์ได้เริ่มรับประทานยาคุมแบบรายเดือนมาภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพราะยาคุมแบบรายเดือนจะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้แล้วครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

การใช้ยาคุม "ดิออร์ร่า 28" ของผู้ถามไม่สามารถลดความเสี่ยงที่มีได้ค่ะ แนะนำให้หยุดใช้ แล้วรีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันทีในตอนนี้ หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ

โดยสามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินแบบครบขนาดในครั้งเดียวได้ นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียว

หากใช้ยาคุมฉุกเฉินครบขนาดและทันเวลา อาจช่วยลดความเสี่ยงให้เป็น 15 - 25% แทนได้

จากนั้น ให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน และรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิมหรือไม่ แต่ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันนี้หรือเปล่า เพราะอาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมเอง ไม่ได้สำคัญอะไร

ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ควรตรวจให้ชัดเจน โดยใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
..
..
..
แต่ผู้ถามควรทราบว่าไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ดังนั้น ถ้ามีเพศสัมพันธ์ ก็ย่อมเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ โดยความเสี่ยงจะมากหรือน้อย ก็ขึ้นกับประสิทธิภาพของวิธีป้องกัน และขึ้นกับการใช้ว่าถูกต้องและเหมาะสมหรือเปล่า

ดังนั้น ถ้ารับความเสี่ยงไม่ได้เลย ก็ควรรอให้ถึงเวลาที่พร้อมก่อน จึงค่อยมีเพศสัมพันธ์นะคะ

แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ และต้องการจะมีเพศสัมพันธ์อีกเรื่อย ๆ ถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดชั่วคราวที่มีประสิทธิภาพสูง, ปลอดภัย และเหมาะสมกับผู้ถาม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่มีให้น้อยลงเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ