October 27, 2018 22:26
สวัสดีค่ะ คำถามของคุณอาจกว้างเกินไป ทำให้คุณหมอไม่สามารถให้ความเห็นได้ กรุณาอธิบายอาการอย่างละเอียดว่าเป็นอย่างไร บริเวณไหน เป็นมานานและถี่แค่ไหน รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น เพศ อายุ ยาหรืออาหารเสริมที่ทานอยู่ เป็นต้น หรือคุณอาจค้นหาคำตอบคุณหมอ และกว่า 5,000 บทความสุขภาพในเว็บของเรา หากคุณถามเกี่ยวกับโรงพยาบาล คุณสามารถค้นหาข้อมูลติดต่อของโรงพยาบาลได้ที่นี่ หรือส่งอีเมลมาที่ [email protected] ค่ะ ขอบคุณค่ะ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ เบื้องต้น ต้องพิจารณาเกี่ยวกับรูปร่างในปัจจุบันของคนไข้ก่อน ว่าเข้าข่าย ผอม หรือ สมส่วนค่ะ โดยดูจาก ค่า BMI หรือ ดัชนีมวลกาย ในคนไทยผู้ใหญ่ปกติ ค่ะ
โดยคนที่รูปร่างสมส่วน ผู้ชาย BMI อยู่ระหว่าง 22-23 และผู้หญิง 19-20 ค่ะ
หากมี BMI ต่ำกว่า 18.5 ถือว่าผอม และหากผอมมากๆ เช่น BMI ต่ำกว่า 17 ควรหาสาเหตุค่ะ
คนไข้ที่ทีอาการคือ ผอม นอกจากเรื่องอาหาร วิถีชีวิตประจำวันแล้ว ยังต้องดูเรื่องโรคร่วมอย่างอื่นที่อาจเป็นสาเหตุของความผอมด้วยค่ะ
โรคที่เป็นสาเหตุของความผอมที่อยากแนะนำให้คนไข้สังเกตและตรวจเพิ่มเติม ได้แก่
1. โรคไทรอยด์ สูงค่ะ คนไข้อาจมีอาการมือสั่น ใจสั่น เหงื่ออกมาก ความดันโลหิต สูง บางคน ถ่ายเหลวบ่อย ตาโปน บางคนอาจมีคอโตได้ค่ะ คนไข้จะกินจุ แต่น้ำหนักตัวน้อยค่ะ
2.โรคติดเชื้อ ต่างๆ เช่น วัณโรค
การติดเชื้อ HIV คนไข้ที่มีความเสี่ยงกับโรคนั้นๆ เช่น ผู้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
โรคตับ โรคไต เรื้อรัง
วัณโรค ต่างๆ ได้แก่ วัณโรคปอด วัณโรคที่ต่อมน้ำเหลือง วัณโรคที่กระดูก ทำให้คนไข้ผอมลง บางคนทีอาการไอเรื้อรัง ปวดตามตัว ไข้ต่ำๆเกือบทุกวัน หรือมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยวัณโรคมาก่อนค่ะ
พยาธิต่างๆ ทำให้มีอาการ ถ่ายเหลว เรื้อรัง
3.โรคเบาหวาน ระยะแรกๆ ผู้ป่วยอาจมีอาการ หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย กินจุ น้ำหนักลดค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ควรไปตรวจน้ำตาลในเลือดค่ะ
4. โรคความผิดปกติของการดูดซึมสารอาหารในลำไส้ เช่น เคยผ่าตัดมาก่อน ทำให้ลำไส้สั้นลง มีอาการถ่ายเหลวเรื้อรัง เป็นต้น
5. โรคมะเร็งต่างๆ น้ำหนักลดอาจเป็นอาการไม่เฉพาะเจาะจง แต่ถ้ามีอาการอื่นมาก่อน ร่วมกับมีน้ำหนักลดอย่างรวดเร็วเป็นหลักเดือน ก็จะทำให้นึกถึง โรคมะเร็ง ได้ค่ะ
6.โรคทางจิตใจ เช่น anorexia , โรคซึมเศร้า
หากคนไข้มีอาการผิดปกติดังที่กล่าวมา ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมนะคะ
สำหรับการผอมที่ไม่ทีสาเหตุ หรือ การรับประทานอาหารไม่ถูกสัดส่วน แนะนำดังนี้ค่ะ
****7.การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสัดส่วน/ไม่เพียงพอ หลังจากที่ได้ตรวจร่างกาย ซักประวัติ ตรวจเลือด เพื่อยกเว้นสาเหตุทางกายที่เป็นไปได้ทั้งหมดของความผอมที่ผิดปกตินั้น จึงจะเข้าสู่การปรับการกินอาหารให้เหมาะสมค่ะ ได้แก่ การทานอาหารให้ตรวเวลา ครบสามมื้อ อาหารอาจเน้นที่พลังงานสูง ไม่ทานของที่ไม่มีประโยชน์ เช่น ขนมซอง น้ำอัดลม เป็นต้น อาจแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ ทานอาหารที่มีคุณค่า เช่น ขนมไทย ซาลาเปา นม เป็นต้นค่ะ
นอกจากนี้ หากไม่มีโรคประจำตัวอื่นๆ แนะนำให้ทานนมพลังงานสูง (นมชงสำหรับผู้ใหญ่ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาค่ะ ) ทานเพิ่มวันละ 1-2 มื้อ เพื่อเพิ่มพลังงานและสารอาหารค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
อยากรู้ว่าทำไมกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนอ่ะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)