อยากเรียนถามคุณหมอครับ เมื่อประมาณ 5 พ.ค 2559 โดนสุนัขกัด (สุนัขไม่มีเจ้าของ) จึงได้ไป รพ. หลังจากนั้นคุณหมอก็ได้นัดฉีดยา โดยฉีดวิธีเข้าผิวหนังโดยฉีด4ครั้ง คือวันที่5,8,12,30 ซึ่งก็ได้ฉีดถึงครั้งที่3 ด้วยความสับเพล่าของตัวเองจึงลืมไปฉีดครั้งสุดท้ายสรุปเลยฉีดได้แค่3เข็มมาปีนี้ก็โดนหมากัดอีก ผ่านมา1ปีเดือน เมื่อวันที่20 ก.ย. 60 เล่นกับลูกสุนัขโดนฟันมันขวั่นบริเวณข้อมือลักษณะแผลถลอกมีเลือดซึมนิดหน่อย จึงได้ไป รพ.ทันที หมอจึงถามว่าเคยฉีดยาพิษสุนัขบ้าครบไหม ก็ตอบว่าฉีดครั้งที่แล้วครบ หมอจึงสั่งให้ฉีดกระตุ้น2เข็ม ฉีดวันที่20และ23พอมานั่งนึกดูดีๆปีที่แล้วฉีดไม่ครบ ฉีดถึงแค่เข็ม3เข็มที่4ไม่ได้ฉีดต่อ ตอนนี้กลัวมาก จึงอยากถามหมอว่า 1.หากปีที่แล้วที่ถูกสุนัขกัด แล้วฉีดวัคซีนได้แค่3เข็มสามารถป้องกันได้เเค่ไหน 2.ปีที่แล้วได้วัคซีนแค่3เข็ม ผ่านมา1ปี5เดือนโดนกัดอีก อยากถามวาต้องฉีดวัคซีน4เข็มใหม่หมดเลยหรือฉีดแค่กระตุ้น2เข็ม ใน้มื่อปีที่แล้วฉีดไม่ครบ 3.ฉีดวัคซีนแค่กระตุ้น2เข็ม โดนกัดรอบนี้เพียงพอไหมครับรอบนี้ 4.ทำไมต้องกลังหมากัดต้องกักขังหมาไว้10วันเพื่อดูอาการครับหรือว่าสุนัขเมื่อไปรับเชื้อมาจากที่ใดก็ตามระยะโรคในสุนัขแค่10วันหลังเอาเชื้อมาหรอครับ

สวัสดีครับ อ้างอิงจาก "แนวทางการให้การดูแลรักษาผู้ป่วยสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า (พ.ศ. 2559) สถานเสาวภา สภากาชาดไทย" การฉีดวัคซีนภายหลังสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า(post-exposure rabies vaccination) จะมีการฉีดอยู่ 2 ลักษณะครับ คือการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ(intramuscular) หรือการฉีดเข้าในหนัง(intradermal) โดยถือหลักการว่า "การให้วัคซีนในช่วง 14 วันแรกจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรคโดยภูมิคุ้มกันจะขึ้นสูงมากกว่า 0.5 IU/มล. ซึ่งเป็นระดับที่ถือว่าเพียงพอในการป้องกันโรคได้ภายในวันที่ 10-14 หลังได้รับวัคซีน และวัคซีนที่ให้ในวันที่ 28 หรือหลังจากนั้นจะทำให้ภูมิคุ้มกันอยู่ได้นานขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือ 3 เข็มแรก หรือ 4 เข็มแรก (ขึ้นกับวิธีการฉีด ว่าเข้ากล้ามเนือ้หรือในหนัง) ก็ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายของเรามีเพียงพอแล้วครับ เข็มหลังจากนั้นเป็นเพียงแค่ทำให้ภูมิอยู่ได้นานขึ้นแค่นั้น

และในกรณีที่ผู้ป่วยเคยได้รับ post-exposure rabies vaccination หรือวัคซีนหลังสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้าด้วยวัคซีนเซลล์เพาะเลี้ยงหรือไข่เป็ดฟักบริสุทธิ์มาก่อนอย่างน้อย 3 ครั้ง (วันที่ 0, 3, 7) หรือผู้ที่เคยตรวจพบว่ามีภูมิคุ้มกันมากกว่า 0.5 IU/มล. เมื่อมีการสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า สามารถให้การรักษาได้โดยการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นพิจารณาตัดที่ 6 เดือนครับ ในกรณีที่ได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายมานานกว่า 6 เดือน (โดยไม่คำนึงว่าผู้ป่วย ได้รับมานานเท่าใดก็ตาม) ให้ฉีดเข็มกระตุ้นโดย ฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อต้นแขน 1 เข็ม วันที่ 0 และ 3 หรือ ฉีดวัคซีนเข้าในหนังบริเวณต้นแขน 1 จุด วันที่ 0 และ 3 // จริงๆ รายละเอียดเยอะมากครับ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ "http://saovabha.redcross.or.th/download/2559/thailand%20Rabies-Free/QsmiGuidline2016.pdf " ซึ่งในหน้าแรกจะตอบคำถามที่คุณถามมาหมดแล้วครับ เกี่ยวกับเรื่องการกักขังสัตว์ 10 วัน

3 เข็มก็เพียงพอที่จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรคแล้วครับ ซึ่งภูมินี้จะอยู่ได้หลายปีเลยครับถ้าได้เข็มที่ 4 และที่คุณโดนกัดมานี้เลยระยะเวลาหลังจกาเข็มสุดท้ายมา 6 เดือนแล้ว ก้ฉีดกระตุ้นแค่ 2 เข็มครับ และถ้าสุนัขมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจริงมักจะมีอาการประมาณ 10 วันครับ ส่วนคนนี่ผมยังไม่เคยเจอกับตัวเลยนะครับ เพราะปัจจุบันการรักษามีประสิทธิภาพสูง ส่วนรอบนี้ได้รับวัคซีนและการรักษาอื่นแล้วก็สบายใจได้ครับ และก็คอยสังเกตอาการของสุนัขถ้าเป็นไปได้ หากมีอาการให้รีบแจ้งแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องครับ และหากโดนกัดอีก พยายามแจ้งข้อมูลการรักษาใหครบถ้วนนะครับ เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง

ถ้าไหนๆ ก็ฉัดแล้วแนะนำให้ฉีดให้ครบไปเลยจะดีกว่าครับ แต่ยกเว้นบางกรณีที่อาจจะไม่ต้องฉีดเข็มที่ 4 และเข็มที่ 5 ก็ได้ แต่ควรจะต้องให้แพทย์ประเมินก่อนเท่านั้น ไม่ควรคิดเองหรือตัดสินใจเองครับ ยกตัวอย่างกรณีที่ไม่ต้องฉีดเข็มที่ 4 และเข็มที่ 5 เช่น ผ่านไปนานมากกว่า 10 วันแล้วสุนัขตัวนั้นยังอาการปกติดี เลี้ยงด้วยระบบปิด มีการกักขังโอกาสสัมผัสสัตว์อื่นน้อย และได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 ครั้งและครั้งล่าสุดไม่เกิน 1 ปี เป็นต้นครับ

ถ้าฉีดมา 4 เข็มแล้ว เหลือเข็มที่ 5 ระหว่างนั้นโดนสุนัขตัวเดิมกัดก็ไปฉีดวัคซีนตามนัดเดิมได้เลยครับ แต่ทั้งนี้ถ้าหากว่าโดนกัดใหม่อีกรอบ แนะนำให้ไปพบแพทย์ครับ อาจจะไม่่ต้องฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าเพิ่ม แต่จะต้องล้างทำความสะอาดแผลที่ถูกกัด ร่วมกับให้ยาปฏิชีวนะครับ เพราะในปากสุนัขหรือในน้ำลายไม่ได้มีแค่เชื้อพิษสุนัขบ้าเพียงอย่างเดียวครับ