January 23, 2020 11:22
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
แนะนำพบเเพทย์สาขาศัลยกรรมทั่วไปหรือทวารหนักครับ ถ้าเป็นระยะเเรกๆอาจรับประทา
นยาเช่น Daflon ร่วมกับการปรับพฤติกรรม เเต่ถ้าเป็นมากจะต้องผ่าตัดครับ
ถ้าไปรพ.รัฐบาลตามสิทธิ ก็น่าจะไม่เสียเงินครับหรือเสียก็น้อยมากเช่นค่าห้องพิเศษ เเละจิปาถะอื่นๆ เเต่ถ้าเอกชน น่าจะประมาณ30,000-40,000ครับ
ริดสีดวง (hemorrhoid) มักเกิดกับผู้ที่นั่งห้องน้ำนานๆ หรือมีประวัติท้องผูกบ่อยๆ แบ่งเป็นสองแบบ
- internal คือหัวริดสีดวงอยุ่ข้างในเเล้วเวลาเบ่งจะโผล่ออกมากับอยู่ข้างนอก
- external คือหัวอยู่ข้างนอกอยู่เเล้วครับ
ลักษณะเลือดที่ออกจะเป็นหยดตามหลังถ่ายสุด อาจจะไม่มีอาการเจ็บปวดอะไรครับ มีแต่เลือดออกเพียงอย่างเดียวก็ได้ เวลาคลำที่ก้นจะได้ก้อนนิ่มๆ อาจจะผลุบๆโผล่ๆเวลาเบ่งถ่ายได้ ถ้ามีเลือดขอดในหัวริดสีดวงด้วย (thrombosed hemorrhoids)จะมีอาการปวดมากครับ
การดูแลริดสีดวงทวารด้วยตนเองเบื้องต้น ได้แก่ การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเพิ่มความดันในนื้อเยื่อหลอดเลือดที่เป็นสาเหตุของโรคริดสีดวงทวารครับ
- เมื่ออุจจาระหรือปัสสาวะเสร็จ ควรล้างก้นด้วยน้ำอุ่น ๆ หรือน้ำสะอาด พยายามรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ แต่ถ้าอยากใช้สบู่ ก็ควรเป็นสบู่เด็กอ่อนเพื่อลดการระคายเคืองของหัวริดสีดวงที่กำลังบวมหรือมีการอักเสบอยู่ (ไม่ควรทำความสะอาดด้วยกระดาษชำระแบบแข็ง แต่ควรใช้วิธีชุบน้ำ หรือใช้กระดาษชำระชนิดเปียกแทนครับ)
- ถ้าเดิมหัวริดสีดวงอยู่ข้างใน เเล้วหัวริดสีดวงหลุดออกมาข้างนอก ให้ใส่ถุงมือแล้วใช้ปลายนิ้วชุบสบู่ให้หล่อลื่น แล้วดันหัวกลับเข้าไปใหม่ ซึ่งจะช่วยได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าไม่ได้ผล แนะนำให้ไปพบแพทย์ครับ
- เมื่ออาการต่างๆเเย่ลง เช่น เมื่อมีเลือดออกทางก้นไม่หยุดหรือเมื่อหัวริดสีดวงไม่สามารถกลับเข้าไปในทวารได้ (อย่าพยายามออกแรงดันหัวริดสีดวงมากจนเกินไป เพราะจะทำให้หัวริดสีดวงได้รับบาดเจ็บและบวมมากขึ้น) ควรพบเเพทย์ครับ
- ดูเเลตัวเองไม่ให้ท้องผูก โดยควรรับประทานผักผลไม้ที่มีกากใยสูง เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง มะละกอสุก ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้อุจจาระอ่อนนุ่มและขับถ่ายออกได้ง่าย ถ้ายังมีอาการท้องผูกอีกให้ปรึกษาเภสัชกร กินยาระบาย เช่น ยาระบายแมกนีเซียม(MOM)ครับ
- ฝึกขับถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา เข่น พยายามถ่ายทุกเช้า หลีกเลี่ยงการนั่งเบ่งถ่ายเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงการยืน การเดิน และการนั่งแช่เป็นเวลานาน ๆ พยายามฝึกไม่เบ่งอุจจาระ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะจะทำให้โรคริดสีดวงทวารเป็นมากขึ้นได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คือผมเป็นริดสีดวงมาประมาณ 5 เดือนล่ะครับ คือตอนแรกที่ผมรู้ตัวว่าเป็นริดสีดวงจริงๆคือ 2 อาทิตย์หลังจากที่ผมสงสัยว่าเป็นหรือเปล่ามันไม่มีความรู้สึกเจ็บอะไรทั้งสิ้นครับ ผมก็รักษาโดยใช้ทั้งยาเหน็บ ยาทา ล่ะก็ยากินที่ช่วยรักษาเส้นเหลือดตรงริดสีดวง ตอนแรกก็ยุบ แต่พอต่อมามันก็กลับมาเป็นอย่างเดิม ผมก็กินล่ะก็เหน็บมาตลอด 2-3 เดือน ผมก็ไปคลินิก หมอก็ฉีดยาแก้อักเสบให้ผม ล่ะก็ให้ยาแก้อักเสบ ยาขยายหลอดเลือด ล่ะก็แก้บวม ใน 3 วันก็เห็นว่ามันเริ่มยุบ และผมก็ไปหาหมอจนถึง 1 เดือน ริดสีดวงก็กลับมาเป็นอย่างเดิม หลังจากนั้นผมก็ไม่ไปหาหมอ แล้วผมซื้อยาเพรชสังฆาตมากิน ตอนแรกก็ยุบ แต่หลังจากนั้นก็เป็นเหมือนเดิม ผมกินผักมากขึ้น ขับถ่าย ไม่ท้องเสีย ไม่แข็ง ปกติ แต่มันก็ไม่หาย คือต้องทำยังไงครับแบบนี้ เหมือนร่างกายดื้อยาด้วยหรือเปล่า ผมเลิกใช้ยาเหน็บเพราะ ตอนที่ผมใช้มันมีอาการแทรกตลอดคือลำไส้อักเสบครับ ริดสีดวงที่ผมเป็นน่าจะระยะที่ 2 ครับเวลาถ่ายก็จะยื่นออกมา ตั้งแต่ตอนแรก ไม่เคยมีเลือดออก ไม่รู้สึกเจ็บอะไรทั้งสิ้น ไม่มีอาการอะไรเลยครับ ถ่ายก็ไม่เจ็บ แต่มีติ่งยื่นออกมาเวลาถ่าย ผมควรทำยังไงดีครับ ?
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)