สวัสดีค่ะ อยากจะปรึกษาคุณหมอค่ะ พอดีว่าเพิ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก เลยไม่ค่อยรู้เรื่องการป้องกันมากนัก ตอนวันที่ 12/12/19ที่ผ่านมามีเพศสัมพันธ์กับแฟน แต่ใส่ถุงนะคะ แล้วก็ซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทานด้วย เพราะว่ากังวลค่ะ แล้วประจำเดือนก็มาตามปกติ แล้วก็มามีเพศสัมพันธ์ครั้งที่ 2คือวันที่1/1/20แฟนใส่ถุง+หลั่งนอกค่ะ แล้วก็ไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทานอีก แล้วครั้งที่3 คือวันที่4/1/20 แฟนใส่ถุง+ถอด+ใส่แล้วหลั่งในถุงค่ะ แต่กังวลว่า กลัวจะมีน้ำอสุจิปนมาตอนแฟนถอดแล้วสอดใส่ค่ะ แล้วยังงี้ยาคุมที่ทานไปก่อนหน้ายังใช้ได้มั้ยคะ (ปล.ไม่ได้อาศัยอยู่กับแฟนนะคะ แต่เวลาเจอกันก็มักจะมีเพศสัมพันธ์) ถ้าเป็นแบบนี้ต้องทานยาคุมเป็นรายเดือนเลยมั้ยคะ หรือแค่ใส่ถุงทุกครั้งที่มีอะไรกัน หรือต้องทำทั้งสองอย่างไปเลย เพื่อเป็นการป้องกัน

ถ้าใช้ถุงยางถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด ก็มีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล และไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ

ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีประสิทธิภาพสูง และไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทานนะคะ ในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด ถ้าผู้ถามไม่มั่นใจว่าแฟนใช้ถุงยางถูกวิธีหรือไม่ หรือถ้าไม่ได้ตรวจสอบการรั่วซึมของถุงยาง หรือถ้ามีการสอดใส่โดยไม่ใช้ถุงยาง ก็สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองได้ค่ะ โดยรับประทานทันทีในตอนนี้ หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์

ถ้าไม่มีผลป้องกันจากถุงยาง การใช้ยาคุมฉุกเฉินครบขนาดและทันเวลาอาจช่วยลดความเสี่ยงที่มีให้เหลือเป็น 15 - 25% แทนได้

การใช้ยาคุมรายเดือนในตอนนี้ไม่มีประโยชน์ค่ะ เพราะไม่มีผลคุมกำเนิดฉุกเฉิน และยิ่งจะทำให้สับสนถ้าประจำเดือนเลื่อนช้าออกไปมากขึ้นจากยาคุมที่ใช้ จึงยังไม่แนะนำให้รับประทานนะคะ
..
..
..
ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาเร่งหรือเลื่อนประจำเดือน ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนของผู้ถามน่าจะมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่มากค่ะ ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยา อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร

ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
..
..
..
แต่ถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว หากต้องการคุมกำเนิดด้วยยาคุมรายเดือน ก็ควรจะเริ่มรับประทานยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน และจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานนะคะ

หรือถ้าต้องการคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน เพราะแม้ประสิทธิภาพจะไม่สูงเท่ากับยาคุมรายเดือน แต่ถ้าใช้ถูกต้องและไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด ก็มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากจนไม่น่าจะกังวล และไม่ต้องทนกับผลข้างเคียงจากยาคุมด้วยค่ะ