March 07, 2020 11:28
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การที่มีประจำเดือนมาหลังจากหยุดรับประทานยาคุมไปแล้วก็จะเป็นการบ่งบอกได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ครับ และถ้าหากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกหลังจากนั้นประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากอีกหลายสาเหตุ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่งครับ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสม
แต่ถ้าหากยังกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ยืนยันดูได้ ซึ่งถ้าหากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม การตรวจการตั้งครรภ์ในตอนนี้ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้แล้วครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าเลือดที่ออกมาครั้งล่าสุดเป็นประจำเดือนจริง ๆ ก็ถือว่าการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วค่ะ ซึ่งถ้าผู้ถามไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลยนับจากนั้น ก็ถือว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์นะคะ
แต่ถ้าไม่มั่นใจว่าเลือดที่ออกมานั้นเป็นประจำเดือนจริง ๆ หรือไม่ และกังวลว่าอาจตั้งครรภ์ หรือถ้ายังมีเพศสัมพันธ์มาอีกเรื่อย ๆ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน
เมื่อไม่มีผลจากยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม การมาหรือไม่มาของประจำเดือน จะขึ้นกับฮอร์โมนตามธรรมชาติในร่างกายของผู้ถามเองค่ะ ดังนั้น ถ้าไม่มีประจำเดือนมาติดต่อกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปทั้งที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือถ้ามีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่เรื่อย ๆ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
หากภายหลังการมีเพศสัมพันธ์แล้วประจำเดือนมาปกติในวันที่ 28 มกราคม ก็แสดงว่ารอบเดือนก่อนหน้าวันที่ 28 ไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นครับ และถ้าภายหลังวันที่ 28 เป็นต้นมาไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์ครับ ซึ่งหากผู้ถามขาดประจำเดือนแล้วกังวลว่าจะตั้งครรภ์นั้นสามารถลองซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาทดสอบได้ครับ ส่วนสาเหตุการขาดประจำเดือนนั้นเป็นได้หลายสาเหตุครับ เช่น
- การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาต้านโรคซึมเศร้า ยาทางจิตเวช เป็นต้น
- ความเครียด, การออกกำลังกายที่หนักจนเกินไป, น้ำหนักตัวน้อยมาก
- การมีระดับฮอร์โมนเพศชายที่สูงกว่าปกติ
- การมีระดับฮอร์โมนเพศต่ำกว่าปกติ เช่น รังไข่เสื่อม ไม่มีการตกไข่
- การเป็นโรคไทรอยด์
ถ้าประจำเดือนขาดเกิน 3 เดือน แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อรับการตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอนเลิกกันกับแฟนวันที่15ม.คแต่กินยาคุมตลอดจนถึงวันที่28ม.คประจำเดือนก็มาแล้วหลังจากประจำเดือนหมดก็หยุดกินยาคุมไปเลยจนถึงวันที่7มี.คประจำเดือนก็ยังไม่มาเลย อยากทราบว่ามีโอกาสท้อมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)