June 10, 2019 15:22
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
1. โดยปกติแล้วจะตรวจหาเชื้อเริมจากแผลตุ่มน้ำหรือเลือดเป็นหลักครับ การตรวจหาเชื้อเริมในอุจจาระนั้นสามารถทำได้แต่โอกาสเจอเชื้อมีน้อยจึงไม่เป็นที่นิยมครับ
2. การตรวจหาเชื้อเริมกับ HIV ใช้สารในการตรวจคนละชนิดกันครับ
3. การรับประทานยา Acyclovir จะเป็นการช่วยลดอาการตุ่มน้ำที่เกิดจากเริมให้หายเร็วขึ้นเท่านั้น หลังจากที่รอยโรคหายไปแล้วเชื้อจะเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทของร่างกาย การรับประทานยา Acyclovir จะไม่ทำให้เชื้อเริมลดลงครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอถามเพิ่มเติมนะครับ
ถ้าเราตรวจเลือดแบบปกติ จะสามารถรู้ได้ไหมครับว่าเรามีเชื้อโรคเริม และผลเลือดที่ออกมาจะเป็นแบบไหนครับ ?
ขอบคุณอีกครั้งครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ทั้งการตรวจเชือดหาเชื้อเริมและ HIV จะต้องมีการระบุการตรวจให้ชัดเจนว่าจะตรวจหาสิ่งใดครับ ถ้าเป็นการตรวจเลือดเช็คสุขภาพทั่วไปก็มักจะไม่ได้ตรวจหา 2 โรคนี้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีครับ
การตรวจเลือดแบบ RPR และ CBC สามารถหาเชื้อโรคเริมได้ไหมครับ ?
ขอบคุณครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การตรวจ RPR เป็นการตรวจหาการติดเชื้อซิฟิลิส ส่วนการตรวจ CBC เป็นการตรวดูความสมบูรณ์ขอฃเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด แต่การตรวจทั้ง 2 รายการนี้จะไม่สามารถใช้ตรวจหาการติดเชื้อเริมได้ครับ
ถ้าหากต้องการตรวจเลือดเพื่อดูว่าเคยติดเชื้อเริมมาก่อนหรือไม่ก็ต้องตรวจเลือดเพื่อหาภูมิคุ้มกันต่อเชื้อเริมโดยตรงครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีครับคุณหมอ
1.ควรรับประทานอาหารและงดรับประทานอาหารประเภทไหนครับ เพื่อช่วยไม่ให้เกิดโรคเริมซ้ำ ?
2.ผมสามารถมีเพศสัมพันธ์ในตามปกติไหมครับ(ในกรณีที่อวัยวะเพศไม่มีตุ่มแผล) ?
3.การทำออรัลเซ็กสามารถทำได้ไหมครับ และควรทำอย่างไรครับเพื่อไม่ให้เชื้อถูกส่งไปยังผู้ทำครับ ?
4.ผมสังเกตที่ปลายอวัยวะเพศบริเวณเส้นสองสลึงเหมือนมีเม็ดคล้ายสิวเล็กๆ สามารถบีบหรือเอาออกได้ไหมครับ ?
ขอบคุณอย่างสูงมา ณ ล่วงหน้าครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
1. ไม่มีอาหารที่ควรรับประทานหรือห้ามรับประทานเป็นพิเศษครับ
2. ถ้าไม่ได้อยู่ในช่วงที่มีอาการปวดแสบร้อนผิวหนังหรือมีตุ่มน้ำจากเริมก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ตามปกติได้ครับ โอกาสแพร่เชื้อเริมไปสู่ผู้อื่นในกรณีนี้จะมีน้อยมาก แต่ก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าจะไม่มีการแพร่เชื้อแน่นอน 100% ถ้าหากต้องการความมั่นใจก็สามารถใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยได้ครับ
3. สามารถทำออรัลเซ็กซ์ได้ครับ เป็นไปในแนวทางเดียวกับข้อ 2
4. หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน ไม่ควรบีบหรือทำอะไรกับเม็ดดังกล่าวในตอนนี้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีครับคุณหมอ
ผมเป็นโรคเริมตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ตอนนี้หายดีแล้วครับ พึ่งเป็นซ้ำอีกครั้งเมื่อ ช่วงปลายเดือนมิถุนายน และรู้สึกเหมือนต่อมน้ำเหลืองที่ต้นขาข้างขวาจะโตขึ้นกว่าเดิม ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไรดีครับ อาจจะถึงขั้นต้องผ่าตัดไหมครับ
ขอบคุณครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากมีต่อมน้ำเหลืองโตในช่วงที่มีอสการของโรคเริมพอดีก็มีโอกาสที่จะเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากการเป็นเริมเท่านั้นและเมื่ออาการขอฃเริมหายไปต่อมน้ำเหลืองก็มักจะยุบลงครับ
แต่ถ้าหากอาการของเริมหายไปแล้วต่อมน้ำเหลืองยังคงโตอยู่ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีครับคุณหมอ
ผมมีผื่นขึ้นที่มือเหมือนเป็นผื่นคัน ผื่นลมพิษครับ (มีอาการคันมาก ๆ แล้วก็แสบร้อนร่วมด้วยนิดหน่อย) ขึ้นทั้ง 2 ข้างครับ ค่อนข้างเยอะ มีทั้งตุ่มเล็กที่สีแดงมีน้ำใส และเหมือนแผลพอง ไม่ทราบว่าเป็นผลข้างเคียงจากการรับประทานยา acyclovir หรือเปล่าครับ(ผมเป็นเริมครับ) แล้วมีวิธีการรักษาเบื้องต้นอย่างไรบ้างครับ
ขอบคุณครับ
โรคเริมสามารถตรวจจากอุจาระได้ไหมครับ ? เชื้อ HIV กับ เชื้อโรคเริม สามารถใช้สารตรวจแบบเดียวกันได้หรือเปล่าครับ ? แล้วถ้าเราทานยา Acyclovir จะทำให้เชื้อของโรคเริมลดปริมาณลงด้วยไหมครับ ? ขอบคุณมา ณ ล่วงหน้าครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)