April 19, 2019 05:49
สวัสดีค่ะ คำถามของคุณอาจกว้างเกินไป ทำให้คุณหมอไม่สามารถให้ความเห็นได้ กรุณาอธิบายอาการอย่างละเอียดว่าเป็นอย่างไร บริเวณไหน เป็นมานานและถี่แค่ไหน รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น เพศ อายุ ยาหรืออาหารเสริมที่ทานอยู่ เป็นต้น หรือคุณอาจค้นหาคำตอบคุณหมอ และกว่า 5,000 บทความสุขภาพในเว็บของเรา หากคุณถามเกี่ยวกับโรงพยาบาล คุณสามารถค้นหาข้อมูลติดต่อของโรงพยาบาลได้ที่นี่ หรือส่งอีเมลมาที่ [email protected] ค่ะ ขอบคุณค่ะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
สุพิชชา แสงทองพราว (พญ.)
แผลเป็นคีลอยด์(keloid) เป็นแผลเป็นที่มีการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมามากผิดปกติ จนเกิดก้อนเนื้อนูน และแผลเป็นจะใหญ่กว่าขอบแผลเดิม ซึ่งการตอบสนองต่อแผลโดยมีการสร้างเนื้อเยื่อแผลเป็นขึ้นมานั้น ขนาดของแผลจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และตำแหน่งของบาดแผลค่ะ
กรณีแผลอยู่ในตำแหน่งที่มีการขยับมาก เช่น ตามข้อต่างๆที่มีการงอ เช่น ข้อศอก หัวเข่า ก็จะทำให้แผลเป็นมีการขยายขนาดใหญ่ขึ้น
การรักษาแผลเป็นมีหลายวิธี ปัจจุบันมียาทาที่ช่วยลดรอยแผล ให้ดูจางลงได้ หากแผลเป็นเกิดในช่วงระยะแรก การใช้ยาทาจะได้ผลดี สามารถใช้ยาทาเพื่อช่วยลดรอยแผล และให้แผลนุ่มลงได้ค่ะ เช่น Hiruscar , Scargel, Mederma เป็นต้น ในช่วงระยะแรก จะช่วยลดแผลนูน และช่วงให้รอยดูจางลงได้
หากแผลมีความผิดปกติหรือนูนมากเกินไปเกิด เป็นคีลอยด์ Keloid อาจจะต้องใช้การรักษาวิธีอื่นเช่น การฉีดยาสเตียรอยด์เพื่อลดการสร้างแผลเป็น ทำให้แผลยุบลง เป็นต้น
ค่ารักษาโดยการฉีดยา จะขึ้นกับแต่ละโรงพยาบาล โดยทั่วไป โรงพยาบาลของรัฐจะประมาณ 500- 1,000 บาท ต่อครั้ง ซึ่งอาจจะต้องมีการนัดฉีดต่อเนื่อง ทุกๆ2-4 สัปดาห์ เพื่อติดตามอาการและดูการตอบสนองของแผลเป็นต่อยา ว่าจะยุบลงมากน้อยเพียงใด ซึ่งก็ขึ้นกับขนาดแผลเริ่มต้นด้วย
แนะนำให้ไปปรึกษาศัลยแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อช่วยประเมินแผลเป็นและวางแผนการรักษาต่อไปค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เป็นคียลอยที่หน้าอก
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)