December 28, 2019 13:21
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
ภายหลังมีความเสี่ยง ควรทานยาคุมฉุกเฉินภายใน120ชั่วโมง หรือให้เร็วที่สุดครับ โดยมีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ประมาณ80% จึงยังมีโอกาสตั้งครรภ์
จึงควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะหลังเสี่ยง14วันขึ้นไปครับ
หลังทายาคุมฉุกเฉินอาจมีเลือดออกได้ นากฮอร์โมนของยาครับ
จึงควรสังเกตุประจำเดือนรอบตามปกติ หากมาช้ากว่าปกติ7วัน ก้ตรวจการตั้งครรภ์ได้เข่นกัน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปประมาณ 1 สัปดาห์อาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอดได้ เลือดที่ออกมาในตอนนี้จึงอาจเป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินได้ครับ
ส่วนโอกาสตั้งครรภ์หลังจากรับประทานบาคุมฉุกเฉินไปแล้วจะอยู่ที่ 15-25% ครับ หลังจากนี้หมอแนะนำให้รอสังเกตดูว่าประจำเดือนจะมาตามปกติหรือไม่ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปก็ให้ลองตรวจการตั่งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ต้องพิจารณาว่าเลือดที่ออกมานั้นเป็นประจำเดือนหรือเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาค่ะ
โดยทั่วไป หากไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ที่ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนในรอบที่รับประทานยามาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อน (เร็วหรือช้าก็ได้) เพียงไม่กี่วันนะคะ ซึ่งประจำเดือนปกติก็ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ
ส่วนเลือดที่เป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน จะเป็นเพียงหยดเลือดซึมหรือเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร และในกรณีที่พบ อาจพบอยู่เพียงแค่วันเดียว หรือเป็นอยู่นาน 2 - 4 วันก็ได้เช่นกัน
ถ้าเลือดที่ออกมาตรงตามลักษณะของประจำเดือนตามที่กล่าวไปข้างต้น ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นประจำเดือนที่มาตามรอบปกติเดิม ซึ่งเมื่อมีประจำเดือนมาแล้ว ก็หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วนะคะ
แต่ถ้าเลือดที่ออกมาเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา ยังสรุปไม่ได้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ จึงถือว่ายังมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ตามผลป้องกันของยาคุมฉุกเฉินค่ะ
หากไม่มีประจำเดือนมา หรือหากไม่มั่นใจว่าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนจริงหรือไม่ และกังวลว่าอาจตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
..
..
..
และเนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐาน จึงควรใช้เฉพาะในกรณีที่จำเป็นฉุกเฉินซึ่งไม่มีทางเลือกที่ดีกว่าเท่านั้น ไม่ควรนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ
ดังนั้น ครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ ถ้าแฟนของผู้ถามไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ อยู่ และยังไม่พร้อมจะมีบุตร ผู้ถามควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะคะ เพราะถ้าใช้ถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
มีเพศสัมพันไปเมื่อวันที่21 แล้วมากินยาคุมฉุกเฉินเมื่อวันที่23 วันนี้28 มีอาการเลือดออกทางช่องคลอด เหนื่อยๆปวดหลังนิดหน่อย นี่มีโอกาสตั้งครรภ์ไหมครับ หรือแค่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินครับ ตอบให้ละเอียดหน่อยนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)